Krukaroon: รวมบทความ คำกลอน ข้อคิดสอนใจ

!!!การุณย์ สุวรรณรักษา สังคมศึกษาฯ วรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา!!

รวมบทความ คำกลอน ข้อคิดสอนใจ

คุณครูที่รักข้อคิดสะกิดเตือนผองเพื่อนครู 
-----------------------------
ครูสอนดี เตรียมดี วิธีสอน
ต้องรู้จริง ทุกตอน สอนศิษย์เขา
มีเทคนิค โน้มจิต ศิษย์ของเรา
ให้จับเจ่า รับฟัง อย่างตั้งใจ
ต้องขยัน วิทยา ค้นคว้าเพิ่ม
เรียนรู้เติม ไม่เฉื่อยชา ล้าสมัย
ไม่หมกมุ่น อบายมุข ขลุกงมงาย
ครูแต่งกาย เป็นแบบอย่าง ในทางดี
พูดสุภาพ คำหยาบคาย อย่าได้เผลอ
ศิษย์ทำผิด พบเจอ อย่าหน่ายหนี
ต้องอบรม ชี้นำ ศิษย์ทำดี
แม้ดุด่า เฆี่ยนตี ด้วยเมตตา
ศิษย์เกเร เถลไถล ไม่เข้าเรียน
อาจผิดเพี้ยน คลายปมคิด ปริศนา
แก้ไขเหตุ ปลุกสำนึก อย่าร้างลา
ตัดหางปล่อย วัดวา อย่ากระทำ
ความใกล้ชิด พิชิตใจ ไม่ให้ศิษย์
ทำความผิด โดยไม่แก้ จริงแท้หนา
สอนด้วยใจ ห่วงใย รักเมตตา
คือจรรยา คือครูดี นี้ยอดครู
อย่าท้อแท้ หมดพลัง สิ้นหวังหนอ
แม้ไม่ได้ ค.ศ.3 ห้ามอดสู
ค.ศ.3 ใช่เครื่องวัด จัดชั้นครู
ศิษย์เท่านั้น คือผู้วัด จัดชั้นเรา

 
ครูรุณย์เตือนใจ
---------
เป็นคนครู เรียนรู้ ให้รอบด้าน
ภาระงาน ถ่ายทอดศาสตร์ สามารถยิ่ง
จึงสมชื่อ คือครู ผู้รู้จริง
อย่าเย่อหยิ่ง ลืมตน จนสิ้นงาม
ค.ศ.สอง หรือสามสี่ ใช่ที่วัด
ความสามารถ ชี้ชัด หนึ่งสองสาม
ควรเรียนรู้ นะคุณครู ทุกผู้นาม
ไร้คนหยาม มากคนชม สมเป็นครู

เรื่องลูกสะตอเมืองใต้
----------
ลูกสะตอ กลิ่นมันหมิ้น
แต่พอกิน มันก็หรอย
ถ้าเผามัน สักเล็กน้อย
ยิ่งกินหรอย อย่างแรงเลย
จุ้มน้ำชุบ เหนาะซาวข้าว
หรอยจริงบาว เท่งเขาเฉลย
ผัดเปรี้ยวหวาน ไม่ต้องเปรย
หรอยจริงเอย สะตอไทย
ถ้ามีมาก นำไปดอง
ถือเป็นของ ชวนหลงใหล
มหัศจรรย์ กลิ่นมันไง
โลกตอไทย กด Like เลย

  เรื่องของน้ำพุ

พฤติกรรมที่นักเรียนควรปรับปรุง

โดยเฉพาะในขณะเรียนหนังสือในห้องเรียน

ดัดขนตา   ขวาซ้าย  ให้งอนสวย
ผลการเรียน ออกมาห่วย  อย่าไปสน
หยิบแป้งทา  หน้าขาวว๊อก  หลอนหลอกคน
หยิบแท่งลิป   มาบันดล   ให้แดงดี
แทปเล็ตมี   ไว้เล่นเกม   เกษมสุข

หยิบหวีหวี  ให้คลายทุกข์   เป็นสุขศรี
เสียบหูนั่ง  ฟังเพลง  อย่างสุนทรีย์
สิ่งเหล่านี้  ขอร้องศิษย์  คิดปรับปรุง
ภาพจากอินเตอร์เน็ตทั้งหมด



บทเรียนชีวิตของอุ้ยอ้าย


           ชีวิตคนเรามีขึ้น มีลง ในทุก ๆ ย่างก้าวที่เดิน แม้หลายคนจะพอเข้าใจในเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ก็คงไม่มีใครคาดคิดว่า ความพลิกผันนั้นอาจจะเกิดขึ้นกับตัวเอง อย่างเช่น หญิงสาวคนหนึ่งที่เธอเคยมีชีวิตที่สวยหรู และมีชื่อเสียงโด่งดังในยุคหนึ่ง แต่กลับต้องมาตกอับถึงขีดสุด



            อุ้ยอ้าย ชฎาธร แดงใส...เธอผู้นี้ มีชีวิตพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากเซ็กซี่สตาร์ชื่อก้องของวงการบันเทิงไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน กาลเวลาผ่านไป ชื่อเสียงหดหาย สุดท้ายก็ต้องออกจากวงการบันเทิงไปเป็น "หมอนวด" ตามสถานบันเทิงยามราตรีเท่านั้น และปัจจุบัน เธอทำงานพนักงานทำความสะอาดในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่เธอกลับบอกว่า นี่คือสิ่งที่ทำให้เธอค้นพบกับความสุขที่แท้จริงแล้ว และเธอก็ได้เปิดใจเรื่องราวทุกอย่างผ่านรายการ "เจาะใจ" ทาง ททบ.5



          เริ่มต้น ต้องขอย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ อุ้ยอ้าย กำลังโด่งดัง เธอเล่าว่า เข้าวงการมาด้วยการถ่ายโฟโต้อัลบั้ม คาราโอเกะ และปฏิทิน ซึ่งช่วงนั้นนางแบบที่ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นเป็นที่นิยมอย่างมาก และที่เธอตัดสินใจเข้ามาในวงการ ก็เพราะต้องการเงิน



            อุ้ยอ้าย เล่าว่า ครอบครัวของเธอไม่ได้สมบูรณ์แบบ คุณแม่ของเธอถูกโจรปล้นบ้านยิงเสียชีวิตโดยที่ยังอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด ขณะที่คุณพ่อก็หายสาบสูญไป ทราบแต่เพียงว่า มีเงินเท่าไหร่คุณพ่อก็นำไปใช้ล้างผลาญจนหมด ทำให้เธอโตมากับความคิดที่ว่า ค่าของเงินใหญ่กว่าค่าของสิ่งใด ๆ เงินคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เธอจึงต้องดิ้นรน เพื่อจะหาเงินมาเลี้ยงตัวเอง เพราะไม่อยากรบกวนครอบครัวคุณอาที่เลี้ยงดูเธอ




          นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ อุ้ยอ้าย ไปถ่ายวับ ๆ แวม ๆ จนถูกฝ่ายปกครองของโรงเรียนเรียกไปตำหนิ เธอจึงตัดสินใจเลิกเรียน เพราะคิดว่าตัวเองหาเงินได้ มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว อยากได้อะไรก็ซื้อ ไปเที่ยวที่ไหนก็ไป กลายเป็นเด็กสาวใจแตก หมดเงินไปกับการเที่ยวเตร่ แต่งรถ โดยที่ไม่เก็บเงินไว้เลย เพราะคิดว่า เงินหาได้ง่าย ๆ เพราะเดี๋ยวก็มีงานโชว์ตัว งานถ่ายแบบเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ

            แต่แล้ว เด็กสาวที่หลงระเริงกับแสงสีก็ได้เรียนรู้สัจธรรมชีวิต หลังจากเพื่อนแนะนำให้เสพยาบ้าเพื่อลดความอ้วน ในที่สุด เธอก็ถูกจับกุม แต่ศาลก็รอลงอาญาไว้ เพราะกระทำผิดครั้งแรก แต่ที่ทำให้เธอน้อยใจมากก็คือ คุณอาไม่ยอมนำบ้านไปค้ำประกันให้ เพราะกลัวเธอจะหนีคดี ทำให้เธอต้องไปจ้างคนมาช่วยค้ำประกัน ซึ่งหลังจากนั้น เธอก็เริ่มห่างเหินจากบ้านคุณอาไป

            ชื่อเสียงของ อุ้ยอ้าย เริ่มดิ่งลงเรื่อย ๆ การที่เธอถูกแบนจากวงการบันเทิง ทำให้เธอเครียดเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังดิ้นรนหาเงิน ด้วยการโทรศัพท์ไปหาพี่ที่รู้จักกัน เพื่อถามว่า มีผู้ใหญ่คนไหนยังต้องการพาเธอไปทานข้าวด้วยอีกหรือไม่ แต่พี่คนนั้นก็แนะนำว่า แค่กินข้าวคงจะไม่ได้เงินแล้ว ต้องไปเป็นไซด์ไลน์ หรืออาบอบนวด เธอจึงตัดสินใจทำอาชีพนี้ เพราะต้องการเงิน เนื่องจากตอนนั้นเธอเหลือเพียงแค่ตัวคนเดียวเท่านั้น บ้านก็ถูกโจรยกเค้า ซ้ำยังถูกคนโกงเงินโกงทองอีกด้วย เรียกได้ว่า ช่วงนั้นเธอแทบไม่เหลืออะไรอีกแล้ว แม้แต่คุณอาก็ไม่ให้อาศัยอยู่ในบ้าน เพราะอายชาวบ้านเขา



            อุ้ยอ้าย ทำงานเป็นสาวไซด์ไลน์ จนกระทั่งอายุมากขึ้น พี่ที่รู้จักแนะนำให้เธอลงมานั่งให้แขกเลือกที่ตู้ เธอจึงยอมทำ เพราะไม่มีเงิน และไม่มีใครให้คำปรึกษา

            "ช่วงนั้นเครียดมาก ไม่มีความสุขเลย บางทีเวลาไม่มีเงิน ก็เคยคิดว่า อยากหลับ แล้วก็ไม่อยากตื่นขึ้นมาเผชิญกับอะไรที่ไม่อยากทำเลย อย่างไปนั่งฝืนยิ้มในตู้ แล้วจะเจอกับใครก็ไม่รู้ เวลาที่ร้านเชียร์แขกก็แนะนำว่า เราเป็นดารานางแบบเก่า แต่อายุเยอะหน่อยนะ ก็คือ แก่ เรารู้ แล้วเราก็มองเด็กสาว ๆ ทำงานได้หลายรอบ จริง ๆ เรารอบเดียวก็พอใจแล้ว อาชีพนี้ มันต้องเจอกับคนแปลก ๆ พิสดารหลายอย่าง ซึ่งเราก็ทำใจไม่ได้ แค่บนเตียงเราก็ฝืนพอแล้ว" อุ้ยอ้าย เล่าด้วยเสียงเครียด

            อดีตเซ็กซี่สตาร์ เล่าด้วยว่า ที่ผ่านมาเธอเจอเรื่องอะไรมาเยอะมาก แต่ช่วงเวลาที่มีความทุกข์ที่สุดก็คือ ช่วงเวลาที่โดนคดียาเสพติด ทำให้เธอเครียด และอับอายคนในวงการ จนต้องผันตัวไปเป็นหมอนวด ตอนนั้น เธอถึงกับคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่ทำ เพราะคิดถึงคุณแม่ที่พยายามอุ้มเธอหนีโจรปล้นบ้าน จนต้องถูกยิงเสียชีวิต เธอจึงหันมาสู้ต่อ

            หลังจากนั่งตู้ให้บริการแขกได้พักหนึ่ง เรื่องราวก็เธอก็ไปปรากฏในสื่อ กระทั่งมีคนแนะนำให้เธอเปลี่ยนมาเป็นคนเชียร์แขกแทนขายบริการ ซึ่งก็ทำให้อุ้ยอ้ายรู้สึกดีขึ้นมาบ้างที่ไม่ต้องฝืนใจให้บริการแขกอีกแล้ว แต่ถึงกระนั้น หากมีแขกต้องการเธอ ผู้จัดการก็ยังบังคับให้เธอทำงานอยู่ดี ทำให้เธออึดอัดไม่รู้จักจบจักสิ้น และอยากจะออกไปทำอะไรก็ได้ที่ไม่ได้อยู่ในวังวนนี้

            ต้องบอกว่า โชคดีที่ อุ้ยอ้าย เจอทางสว่างนั้น เมื่อเพื่อน ๆ ในวงการบันเทิงได้ชักชวนเธอไปทำอาชีพอื่น ๆ ทั้งทำงานในร้านอาหาร หรือเป็นพนักงานแจกบัตรคิดเงินในลานจอดรถ ซึ่งแม้จะได้เงินน้อยกว่า แต่เพราะตอนนั้นอดีตนางแบบรู้จักค่าของเงิน และใช้เงินเป็นแล้ว จึงยอมรับงานนี้อย่างไม่อิดออด


            อย่างไรก็ตาม งานพนักงานแจกบัตรในลานจอดรถก็สร้างความลำบากให้เธอพอสมควร เพราะต้องเดินทางไกลมาก เธอจึงตัดสินใจออกจากงาน เพื่อไปสมัครเป็นแม่บ้านในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านพระราม 9 ซึ่งอยู่ใกล้บ้านมากกว่า เธอมั่นใจว่า ตัวเองทำอาชีพนี้ได้แน่ ๆ เพราะที่แย่กว่านี้ก็เคยทำมาแล้ว

            "ตอนเราเก็บขยะ เราก็มองว่า ทำไมขยะที่อยู่ในที่เหม็น ๆ เขายังเอาไปรีไซเคิลเป็นของที่มีประโยชน์ได้ แล้วทำไมชีวิตเราจะต้องจมปลักอยู่กับสิ่งหมักหมมเหม็นเน่าที่ไร้ประโยชน์ เหรอ เราจะไม่ยอมหลุดพ้นเหรอ ถ้าเกิดเรามีโอกาส มีคนหยิบเราขึ้นมาแล้ว ก็เลยรู้สึกว่า เราต้องทำตัวเราให้ได้ รีไซเคิลตัวเรา เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนการใช้ชีวิต ที่เหลือคือการยอมรับของสังคม เราจะไปห้ามความคิด หรือคำพูดใครไม่ได้ ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเรา" อุ้ยอ้าย บอกเจตนารมณ์ชัด


            เมื่อพูดถึงงานพนักงานทำความสะอาดที่เป็นชีวิตใหม่ของเธอ อดีตนางแบบดัง บอกว่า วันแรกที่ไปทำงานนี้เป็นวันที่มีความสุขมาก แม้จะเหนื่อยมาก เพราะต้องทำงานถึง 12 ชั่วโมง แต่พอทำทุกวันก็ชินแล้ว หากวันไหนไม่เหนื่อยมันเหมือนขาดอะไรไปอย่าง เพราะเรารู้สึกสนุกกับชีวิตแล้ว และเราก็ภูมิใจในทุก ๆ วันที่ออกไปทำงาน ว่า เราได้ใช้ชีวิตปกติแล้ว เหมือนมนุษย์สามัญชนทั่วไป

            "ชีวิตเรา 40 กว่าปีแล้วที่ใช้ผ่านมา ที่เหลืออยู่อาจจะไม่กี่ปี แต่รู้สึกว่า เกียรติ ศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง มันมีแล้วนับแต่นาทีนี้ รวมทั้งคุณค่าของความเป็นคน เราจะบอกแม่ในใจเสมอว่า ที่ผ่านมา แม่อาจจะไม่ได้ไปสู่สุคติ เพราะชีวิตของลูกยังน่าห่วง ลุ่ม ๆ ดอน ๆ อยู่ในที่มืด แต่ ณ ปัจจุบัน ลูกอยู่ในที่สว่างแล้ว แม่หายห่วงเถอะ ลูกจะประคองชีวิตลูกให้อยู่ในทางที่ดีต่อไป ค่าของคนและศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง ไม่ต้องให้ใครมาย่ำยีทั้งจิตใจและร่างกายอีกแล้ว แม้จะได้เงินตอบแทนน้อย แต่มันภูมิใจมาก มากกว่าตัวเงิน ทำงานเหงื่อแตก แต่ก็ยิ้มได้ มีความสุขมาก..." อุ้ยอ้าย เล่าอย่างมีความสุข

            เมื่อถามว่า ยังมีคนจำเธอได้แล้วเข้ามาทักบ้างไหม อุ้ยอ้าย บอกว่า ยังมีบ้าง บางคนก็เข้ามาให้กำลังใจ บางทีเธอเดินไปเจอคนในวงการมาถ่ายทำรายการอะไร เธอก็แค่มองอยู่ห่าง ๆ ไม่กล้าอาจเอื้อมเข้าไปทักว่าเคยรู้จักกัน และตอนนี้ เธอก็พอใจกับการเป็นแม่บ้านที่ทำให้เธอมีความสุข และอยากจะตื่นขึ้นมา เพื่อมีวันพรุ่งนี้แล้ว เพราะตั้งแต่เกิดมา นี่คือช่วงเวลาที่เธอมีความสุขที่สุด ไม่เหมือนกับตอนที่เป็นนางแบบ แม้จะมีเงินมีทองมีชื่อเสียง แต่ก็เหมือนกับการฆ่าตัวตายทางอ้อม


            "ตอนนี้พูดกับแม่ได้เต็มปาก แม่คงหายห่วงแล้ว ทุกวันนี้ตื่นมามีชีวิตเหมือนคนปกติ ถ้ามองกลับไป เราคงไม่โทษโชคชะตา เป็นเพราะเราทำตัวเองมากกว่า นี่คือผลของการกระทำในอดีต เพราะเราไม่รักเรียน ไปยุ่งกับยาเสพติด มันเลยส่งผลกับเราในปัจจุบัน ทุกวันนี้ จึงพยายามทำอะไรให้ดี เพื่อผลอนาคตในวันข้างหน้า..." อดีตนางแบบวัย 44 กะรัต บอกอย่างสบายใจ

            ก่อนจบการสนทนา อุ้ยอ้าย ชฎาธร ได้นิยามความหมายของคำว่า "ความสุข" ในมุมมองของเธอว่า ความสุขของเธอก็คือ การทำวันนี้ให้ดี และที่สำคัญคือ ค่าของคน และศักดิ์ศรีของคนคือสิ่งที่สำคัญมาก

            "ภูมิใจที่สามารถเอารอยยิ้มไว้บนหน้าได้ พร้อมกับศักดิ์ศรี และคุณค่าของตัวเอง เวลาหายใจเข้า หายใจออก รู้สึกว่าชีวิตมันมีความสุข..." นี่คือความสุขในตัวของ อุ้ยอ้าย ชฎาธร แดงใส ที่เชื่อว่าทุกคนคงสัมผัสได้ หลังจากเธอได้รับโอกาสและปลุกชีวิตใหม่ขึ้นมาอีกครั้งด้วยตัวเอง

             คลิกดูคลิปได้ที่นี่

ข้อมูล จากเว็บไซต์
http://entertainment.goosiam.com/hotnews/html/0033454.html



คบเพื่อน ที่ดี เป็นศรี แก่ตัว
คบเพื่อน ชั่วช้า พาตัว เสียหาย

------------------
 
                                               วัยรุ่น วัยเรียน หนาเจ้า                               เป็นวัย หนุ่มสาว วัยใส
                                  เที่ยวเตร่ เฮฮา ตามวัย                                             ไม่มี อะไร ทุกข์ตรม
                                  ม.2. เรียนดี ใจหาย                                                  นายกฯ ให้ทุน เสริมสม
                                 เคราะห์กรรม ทำเธอ ระทม                                     หวังล่ม เหมือนตาย ทั้งเป็น
                                คบเพื่อน เชื่อเพื่อน มากกว่า                                    เชื่อว่า เพื่อนดี เห็น ๆ
                                อนิจจา เพื่อนพา ลำเค็ญ                                          ทุกข์เข็ญ ก็เพราะ เพื่อนเลว
                               ชั่วช้า มากมาย เพื่อนเอ๋ย                                          หลอกให้ ทรามเชย ตกเหว
                               สองพัน รางวัล ทำเลว                                              แหลกเหลว เพื่อนคง สมใจ
                               หลอกให้ ชายโฉด ข่มขืน                                         สะอื้น เกินกล่าว คำไหน
                               รักเพื่อน เชื่อเพื่อน กว่าใคร                                      ทำไม ต้องเจอ เพื่อนทราม
                               มากมาย เพื่อนหมาย ทำลายเพื่อน                            สุภาษิต โบราณเตือน ทั่วสยาม
                               คบเพื่อนดี เป็นศรี ตนดีงาม                                      คบเพื่อนทราม จักให้ร้าย ทำลายตน
                               คบเพื่อนชั่ว เพื่อนจักพา ไปหาผิด                             คบบัณฑิต บัณฑิตพา ไปหาผล
                               ย่อมรู้ดี ในความหมาย ได้ทุกคน                               ที่ยินยล ก็ยังมี แบบนี้เอย
                               คบเพื่อนซิ่ง เราก็ซิ่ง ไปตามเขา                                  คบเพื่อนเมา เราก็เมา กันแหละเหวย
                               คบขี้ยา ก็ติดยา เชื่อได้เลย                                           คบเพื่อนเที่ยว เที่ยวสบย ต้องเหมือนกัน
                               คบเพื่อนคร้าน หนีเรียน คอยหลีกหลบ                     จะเรียนจบ อย่างไร เล่าจอมขวัญ
                               คบอ้อล้อ เราอ้อล้อ ก็ตามมัน                                     คบเพื่อนพาล เราก็พาล เหมือนกันเลย
                               จักคบใคร คิดให้ดี ก่อนที่คบ                                     อย่าประสบ ดั่งเรื่องราว ข่าวเฉลย
                               จงโชคดี มีชัย ทั่วไปเอย                                            ขอทรามเชย โปรดจงจำ คำครูเตือน

ข้อคิดเตือนจิตใจ
ขอให้นักเรียนทุกคน ดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง อย่าได้วางตนอยู่บนความประมาท ขอจงประสบความสุขความเจริญตลอดไป
                                                                                  ครูรุณย์ 8 มีนาคม 2548

 
ลักษณะหญิงที่เป็นกาลกิณี
 

ลักษณะหญิงที่เป็นกาลกิณี คือ 

๑) นอนหลับปลุกยาก หายใจแรง นอนกรนดัง นอนคว่ำหน้า นอนผ้าผ่อนหลุดลุ่ย ส่งเสียงครางฮือๆ เวลาหลับ


๒) ทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับผู้ชาย

๓) หน้าตาบูดบึ้งอยู่เสมอ เดินขย่มตัว ดังม้าดีดกระโหลก

๔) ทรวงอกแฟบเหมือนอกชาย หัวนมยาวและดำคล้ำ ไหล่ตกดังนกปีกหัก

๕) พูดคำด่าคำ ปากคอเราะร้าย มักสบถ พูดเสียงกระเส่าดังคนร้องไห้ หัวเราะเหมือนสะอื้นไม่สำรวม
หัวเราะคลอนตัว ยิ้มหัวเหมือนร้องไห้

๖) พูดไม่เงยหน้าสบตา พูดอู้อี้ในลำคอ ทำหน้าตื่นหูชัน เดินก้มหน้าดูแผ่นดิน เดินหนีแขนไม่แกว่งไกวหรือไกวดังคนว่ายน้ำ

๗) กายมีกลิ่นเหม็นเขียวชวนคลื่นเหียน

๘) ขาดความเมตตาปราณี ในเพื่อนมนุษย์และหมู่สัตว์(ข้อนี้ความเห็นผมครับ)
    ผู้หญิงประเภทนี้ใครได้เป็นภรรยา เปรียบเหมือนได้รับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด มีแต่จะอับเฉา ตกต่ำอับจน
ส่วนใครมีเพื่อนหญิงลักษณะนี้ให้ถอยออกห่างเสีย หาไม่จะมีแต่เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเรา
ส่วนหญิงใดมีลักษณะดังนี้ ก็แก้ไม่ยากครับ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนนิสัย บุคลิกภาพ แบบตั้งใจจริงๆ 

          นักเรียนหญิงเขาขอกันมาเลยเอามาให้ ได้อ่านกันดูนะครับ





                                                 เรียนใกล้ปลอดภัย เรียนไกลทุกข์ตรม
                ลูกเรียน บ้านใกล้ ได้พอ ดูแล                           เรียนไกล พ่อแม่ ดูแล ไฉน
           เด็กดี ลดน้อย ถอยลง เรื่อยไป                              นักเรียน เหลวใหล จำนวน ทวี
           ครอบครัว เสื่อมทราม ลุกลาม ไปทั่ว                   โรงเรียน เมามัว แต่เรื่อง ศักดิ์ศรี
           สังคม ชำรุด ทรุดโทรม เต็มที                               เด็กจึง ไม่มี เกราะป้อง กันตน
          มอสอง อยู่หอ ห่างกัน ครอบครัว                         เมื่อเด็ก ทำชั่ว มีไหม ใครสน
          อนาถ เหลือใจ หาใคร บันดล                               ให้เด็ก ทุกคน รู้จัก ชั่วดี
          รู้จัก บาปบุญ สิ่งเป็น คุณโทษ                               รู้จัก ประโยชน์ ชาวพุทธ วิถี
          รู้จัก คิดทำ ตามประ เพณี                                      รู้จัก หลีกหนี ชั่วช้า สามานย์
          รู้จัก กตัญญ ู รู้คุณ ของคน                                 รู้จัก ทำตน ให้มี แก่นสาร
         รู้จัก ประหยัด รู้จัก ประมาณ                                 รู้จัก ทำงาน ช่วยเหลือ ครอบครัว
         รู้จัก ประโยชน์ ของการ ศึกษา                              รู้จัก เวลา จะมี เมียผัว
         รู้จัก ห่วงนวล สงวน เนื้อตัว                                  รู้จัก เกรงกลัว โลกีย์ มีคาว
         รู้จัก รักศรี สตรี สยาม                                            รู้จัก ห้ามปราม หัวใจ วัยสาว
         รู้จัก มองไกล มองไป ให้ยาว                                 ชีวิต ของเรา ทุกข์สุข อย่างไร
         ให้มอง คนทุกข์ รอบกาย ของตน                          ทั่วไป ทุกหน คนอยาก ทุกข์ไหม
          เธอก็ รู้ดี คงไม่ มีใคร                                             ที่อยาก จะให้ ชีวิต ระกำ
          อยากหนี ความทุกข์ ก็ลุก ขึ้นสู้                             ขยัน เรียนรู้ ให้มาก คมขำ
          สิ่งใด ที่ดี นี้ให้ รีบทำ                                            ขอศิษย์ จงจำ คำสอน ครูเอย

ให้คติเตือนใจสำหรับผู้ปกครองที่นิยมส่งลูกหลาน ให้ไปเรียนโรงเรียนดังที่ไกลภูมิลำเนาตั้งแต่เล็ก ๆ และเป็นคติเตือนใจแก่นักเรียนทั่วไป
20 มีนาคม 2547
2 โจ๋ลวงข่มขืนสาว 14
แม่โร่แจ้งความจับ 2 โจ๋ ข่มขืนบุตรสาววัย 14 ปี เผยถูกเพื่อนชายคนสนิทลวงไปห้องพัก ทำทีจะออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยว เปิดทางให้เพื่อนลงมือ
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 7 ธันวาคม ร.ต.ท.สันตศิริ เมตตาวงศ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองพิษณุโลก ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้มีนางดาว (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ชาว ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้พาด.ญ.อุ๊ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี บุตรสาว นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ติดตามจับกุมนายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ นายสอง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี สองวัยรุ่นที่ลงมือข่มขืนกระทำชำเราบุตรสาวของตนเอง
นางดาวให้การว่าทำงานอยู่ อ.พรหมพิราม โดยส่งบุตรสาวเข้าไปเรียนหนังสือในตัวเมืองพิษณุโลก โดยเช่าหอพักหญิงให้อยู่ตามลำพัง ได้ทราบเรื่องนี้เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา จากการแวะไปเยี่ยมบุตรสาวที่หอพัก พบลูกมีท่าทางผิดสังเกต จึงสอบถามจนทราบความจริงว่าเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายสาม (นามสมมติ) เพื่อนชายที่สนิทกันไปรับบุตรสาวพาไปที่หอพักไม่มีชื่อแห่งหนึ่ง ย่านถนนพญาเสือ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก
นางดาวให้การต่อว่านายหนึ่งกับนายสอง ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุลจริง ซึ่งเป็นเพื่อนของนายสามได้เข้าไปในห้อง หลังจากนั้นนายสามขอตัวออกไปนอกห้อง โดยอ้างว่าจะไปซื้อก๋วยเตี๋ยวมาให้กิน พอนายสามออกจากห้อง วัยรุ่นทั้งสองก็ตรงเข้ากระชากข้อมือด.ญ.อุ๊ พาเข้าไปในห้องนอน บังคับถอดเสื้อผ้า จับแขนขาบังคับข่มขืนจนเสร็จกิจคนละ 1 ครั้ง
นางดาวให้การต่อด้วยว่า ก่อนหลบหนีไป วัยรุ่นทั้งสองยังพูดข่มขู่ลูกไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร ไม่เช่นนั้นจะตามมาทำร้ายและประจานให้คนทั่วไปรู้ ทำให้ลูกไม่กล้าบอกใคร จนตนมาเยี่ยมจึงทราบเรื่อง สุดท้ายตัดสินใจพาลูกเข้าแจ้งความ
หลังรับแจ้งความ ร.ต.ท.สันตศิริ เมตตาวงศ์ ร้อยเวร เจ้าของคดีได้ส่งตัว ด.ญ.อุ๊ไปตรวจหาร่องรอย ข่มขืนที่โรงพยาบาลพุทธชินราช และเตรียมสอบปากคำผู้เสียหายร่วมสี่ฝ่ายตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน ส่วนผู้ถูกกล่าวหาเบื้องต้นถูกตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง อายุไม่เกิน 15 ปี และจะติดตามตัวมาสอบปากคำ ก่อนทำสำนวนส่งฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก http://www.teenee.com/
จับหนุ่ม 28 ปีพาสาว 15 ปีไปอยู่กิน
แม่ชาวร้อยเอ็ด แค้นส่งลูกสาวไปเรียนในตัวเมืองยโสฯ เช่าหอใกล้โรงเรียนให้อยู่ กลับทราบข่าวลูกไปอยู่กับผู้ชาย สุดท้ายต้องออกมาตรวจสอบจนเจอกับตา ขณะลูกสาวสารภาพอยู่คนเดียวแล้วเหงา ไปอยู่กับหนุ่มเพราะรัก แต่แม่ไม่รักด้วย เลยแจ้งตำรวจเอาผิดฝ่ายชายฐานพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร พร้อมข้อหามีกระสุนปืนในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวที่สร้างความปวดร้าวให้หัวอกคนเป็นแม่ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 9 ธันวาคม นางทองจันทร์ อายุ 41 ปี ชาวร้อยเอ็ด เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.บุญหาญ พันธ์ศิริ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยโสธร ให้ดำเนินคดีกับ นายวรวุฒิ วีรวัฒนกูล อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 5 ซอยพิชิตรังสรรค์ 5 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร หลังจากทราบว่า นายวรวุฒิอยู่กินกันฉันสามีภรรยากับลูกสาววัย 15 ปี
นางทองจันทร์ แจ้งว่า ได้ส่ง น.ส.จิน (นามสมมติ) อายุ 15 ปี บุตรสาวจากบ้านเกิดในจ.ร้อยเอ็ด มาเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองยโสธร โดยเช่าบ้านพักอยู่ใกล้กับโรงเรียน แต่ไม่เคยรู้ระแคะระคายมาก่อนว่าลูกสาวมีคนรัก จนกระทั่งมีคนรู้จักเล่าให้ฟังว่าเจอลูกสาวหนีไปอยู่กับผู้ชาย ด้วยความเป็นห่วงจึงเดินทางจากบ้านไปตามหาที่ จ.ยโสธร จนพบว่าลูกสาวมาอยู่กินกับนายวรวุฒิ ได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว โดยเห็นว่านายวรวุฒิ กระทำไม่เหมาะสม จึงเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีข้อหาล่อลวงบุตรสาว
หลังรับแจ้งความ พ.ต.ท.สำเนียง ลือเจียงคำ รอง ผกก.(สส).สภ.อ.เมืองยโสธร ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายวรวุฒิ พบว่าทั้งสองคนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จึงขอตรวจค้นในห้องนอนพบกระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 5 นัด ซึ่งนายวรวุฒิอ้างว่าเป็นของเพื่อนคนหนึ่งแต่จำชื่อไม่ได้นำมาฝากไว้ ส่วนเรื่อง น.ส.จิน ฝ่ายหญิงสมัครใจมาอยู่ด้วยกันเอง ไม่ได้บังคับหรือล่อลวงแต่อย่างใด
สอบสวน น.ส.จิน ให้การกับตำรวจว่า หลังจากเข้ามาเรียนหนังสือในตัวเมืองยโสธรคนเดียว รู้สึกเหงา กระทั่งได้รู้จักกับนายวรวุฒิ ซึ่งคอยดูแลและมาคอยรับส่ง ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ จึงย้ายมาพักอยู่ด้วยกัน เพราะรักนายวรวุฒิมาก หลังจากนางทองจันทร์ รับทราบเรื่องราวทั้งหมด ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะลูกสาวเพิ่งอายุได้เพียง 15 ปีเท่านั้น
เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหานายวรวุฒิพรากผู้เยาว์อายุ 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจาร และมีกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย จากนั้นจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป
โดย : Mafia โพสเมื่อ [ วันเสาร์ ที่ 10 ธันวาคม 2548 เวลา 15:47 น.]

ครูดีปี 2012

มุมมองของครู

         ครูคือใคร  ทำอะไร  ทำเพื่อใคร กันเล่าครู          ครูหวัง  แต่ประโยชน์  ฟ้าดินโกรธ  เอานะครู
         ครูหวัง  รวบอำนาจ  ทำลายชาติ   ได้นะครู        ครูที่   เห็นแก่ตัว  ลูกศิษย์หัว(เราะ)  เอานะครู
         ครูไหน  ใครพูดหยาบ  ศิษย์ซึมซับ  เอานะครู    ครูไหน  ชอบอวดตน  คนนินทา  เอานะครู
         ครูไหน  ใครชอบเลีย  ศักดิ์ศรีเสีย  เอานะครู      ครูไหน  อยู่เหนือครู  แสนหดหู่  จริงไหมครู
         ครูไหน  ทิ้งคาบสอน  ศิษยจะย้อน  เอานะครู     ครูไหน  ดีแต่พูด  ทำงานพิสูจน์  บ้างซิครู
         ครูไหน  ไม่ค่อยพูด  เปิดปากพูด  บ้างนะครู       ครูไหน  รับงานหนัก  ควรหยุดพัก   บ้างนะครู
         ครูไหน  รับงานเบา  ช่วยงานเขา  บ้างเถิดครู     ครูไหน   หัวเช้าเซ็น(ชื่อ) ตัวไม่เห็น  ทั้งวันครู
         ครูไหน  น้อมวันทา  เลียแข้งขา  ก้าวหน้าครู      ครูไหน  แข็งเกินไป   จะก้าวไกล  ได้ไหมครู
         ครูไหน  ขัดแย้งนาย   จะก้าวไกล  ได้ไหมครู     ครูไหน ยอเจ้านาย  คอยรับใช้  ไปไกลครู
         ครูไหน   ใครทำงาน  เอกสาร  วัดงานครู          ครูไหน  แฟ้มเต็มตู้  ยูฮู้ฮู  เป็นยอดครู
         ครูไหน  ไร้เอกสาร  ไร้ผลงาน  ถูกไหมครู         ครูไหน  ลอกใครครู  ผลงานครู จริงหรือครู
         คุณครู  พิมพ์ผลงาน  ถ่ายเอกสาร  เก็บไว้ครู     คุณครู  ถ่ายรูปครู   ถ่ายกับป้าย  เก็บไว้ครู
         คุณครู  ให้คนชม  เก็บคำนิยม  เอาไว้ครู           คุณครู  ปีสองพัน  อัศจรรย์  ดีนะครู
         คุณครู  เหนื่อยน่าดู  ครูต้องสู้  เพื่อตัวครู           คุณครู  ยุคเวิร์ลคลาส เก่งสามารถ จริงรึครู
         คุณครู  แข่งเลื่อนขั้น จิตไหวหวั่น หน้ามูทู         ครูเอ๋ย  ลองตรวจดู  ทำเพื่อครู  หรือศิษย์ครู

                                                                  20  ธ.ค 2542 แต่งลงสารวรนารี ฉบับวันครู
16  ม.ค 2543   ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับการเขียนกลอนนะครับ เขียนมั่ว ๆ ไม่รู้ได้ใจความอย่างไรบ้าง
แล้วแต่คนอ่านก็แล้วกันนะครับ

มุมมองของน้องหนู
ครูดีปี 2012

                         ครูขา  พ่อแม่  รังแกหนู                        ครูขา  หนูมีครู   ที่พึ่งหนู
                         ครูขา  ครูมีหนู  ที่พึ่งครู                       ครูขา  ไม่มีหนู   ไม่มีครู
                         ครูคะครู  หนูอยู่   กับยายหนู                ครูคะครู   พ่อแม่  ทอดทิ้งหนู
                         ครูคะครู  หนูอยากให้   ครูเหลียวดู          ครูคะครู   เด็กแบบหนู  มีมากครู
                         ถ้าครูเฉย  เท่ากับ  รังแกหนู                  หากครูเฉื่อย  ครูไม่ซึ้ง  ซึ่งคำ "ครู"
                         หากครูโลภ  ครูหวังแต่  ประโยชน์ครู      แล้วครูดี  มีบ้างไหม  กายใจครู
               ครูขา   โปรดหันมา  ทุ่มเวลา  ให้พวกหนู           ครูขา  ถ่ายทอดวิชา  จริยา  ให้พวกหนู
               ครูขา  ขอปรึกษา  แก้ปัญหา   ให้พวกหนู           ครูขา   ขอเวลา  สนทนา  กับพวกหนู
              ครูขา  หากหนูผิด  ครูสะกิด   ตักเตือนหนู            ครูขา  หนูหลงผิด   ให้ข้อคิด  แก้ไขหนู
              ครูขา  อย่าวางเฉย  ปล่อยตามเลย   เป็นเรื่องหนู   ครูขา  ครูเป็นครู  เมตตาหนู  หนาคุณครู
              ครูควร   ตั้งใจ   แก้ไข   ปัญหาหนู                     ครูควร  ตั้งใจ  ทำอะไร ให้พวกหนู
              ครูควร  ตั้งใจ  กวดวินัย  ให้พวกหนู                    ครูควร  ตั้งใจ  ทุ่มกายใจ  ให้งาน"ครู"
              คุณครู  ปีสองพัน  ที่หนูฝัน  เอาไว้ครู                  เป็นครู  มีภูมิรู้   และเป็นครู  มีภูมิครู
              เป็นครู  มีภูมิธรรม  วิสัยทัศน์ล้ำ   นี่แหละครู          เป็นครู  เสียสละ  อุตสาหะ   ครูยอดครู


                                                                        20  ธ.ค. 2542
                                                                        เขียนลงสารวรนารี ในโอกาสวันครูปี 2543
              หมายเหตุ เขียนแบบไม่ถูกต้องตามหลักนะครับ เขียนแบบอีโหลกโขลกเคลก มั่วเลยครับ


    

 หัวอกเดียวกัน

                     ไม่รู้เรื่อง  เปลืองหัว  มั่วหมด        ไม่จด  ไม่ฟัง  นั่งหาว
                     หนวกหู   ครูสอน  ปาวปาว           หนาวหนาว  ร้อนร้อน  ซึมซึม
                     ว่าเอา   ว่าเอา   ว่าเอา                ว่าเรา   ทำท่า  หน้าขรึม
                     เบื่อเบื่อ  ห้องเรียน  อึมครึม          สะลึม  สะลือ   ง่วงนอน
                     อยู่บ้าน  พบมา  เยอะแยะ             เหมือนแหละ  เหมือนครู   ผู้สอน
                     พูดด่า   ทำท่า  งอนงอน              พอย้อน   ถูกดุ   ทุกครา
                     มาเรียน   ถูกด่า  ซ้ำสอง              กลัดหนอง   จริงจริง  เลยหนา
                    โดดเรียน  ทุกทุก  วิชา                เบื่อหน้า  คำด่า  แดกดัน
                     อยู่บ้าน   ไม่ได้  พ่อด่า                มาเรียน  โดนว่า  เสียขวัญ
                    เบื่อเบื่อ   ชีวิต  ชีวัน                   เพื่อนกัน  รู้จิต  รู้ใจ
                    อ้ายหลุบ   อ้ายแหลม  อีหนิ๊ง       อีกิ่ง   อ้ายป้อม   อีไหว
                    อีทวย  อีเขียว  อีไม                   อ้ายไก่   หัวอก  เดียวกัน
                    สมาคม  ของเรา  แสนสุข            สนุก  มีแต่  ขำขัน
                    หลังตึก  เรียนห้า   ทุกวัน            ที่นั่น  นัดพบ  เฮฮา
                    ครูถาม  ไม่เรียน  หรือไร             ตอบไป  คาบว่าง  ครูขา
                    คุณครู  ไม่เคย  หันมา                ตรวจตรา  ตาราง  เรียนเรา
                    คุณครู  คุณครู  ทั้งผอง               เพ่งมอง  แต่เด็ก  อื่นเขา
                    เราเป็น  เราทำ  นานเนา             ครูรู้  หรือเปล่า  เล่าเอย
                   ไม่เคย  เข้าแถว   สักวัน             ไม่ทัน  ตื่นสาย  จริงเอ๋ย
                    ทำมา  ประจำ  จนเคย                ละเลย  ระเบียบ  วินัย
                    อนาคต  เบื่อคิด   จิตเศร้า           พวกเรา  แค่นี้   ไปไหน
                   ตั้งเป้า  มุ่งหวัง  อะไร                 ใครใคร   ไม่รู้  เราจน
                   ครอบครัว   แตกแยก  กันหมด      รันทด   สยอง  ผองขน
                   โชคดี   ที่เหลือ  เป็นคน             หวังผล  ก้าวไป  ไหนกัน
                    คนอื่น   มีโชค  เหลือที่              ที่มี  พ่อแม่   ปลอบขวัญ
                   ครูรัก  ห่วงใย  สัมพันธ์               พวกฉัน  ไร้คน  เมตตา
                   ขอโทษ  ขอโทษ  คุณครู            ผมรู้  ผมแย่  จริงหนา
                   ขอโทษ  ขอโทษ  อีกครา           ผมว่า  ปล่อยผม  ตามกรรม
                แต่งเอาไว้เมื่อ  14  ก.พ. 2543  ในวันวาเลนไทน์ ให้พวกเราได้ช่วยดูแล
เอาใจใส่พวกเขาให้มาก  รักเขามาก ๆ  อย่ารังเกียจเขา ให้เขาอยู่ ในสังคมนี้อย่างมีความสุขนะครับ

                          หล่อนชื่อแสนดี

                    หล่อนชื่อ  แสนดี  งดงาม           ดูรูป  ดูนาม  สงสัย
               เจ้าหล่อน  ขี้ลัก  ได้ไง             หน้าตา  ใช้ได้  เข้าที
               หลายครั้ง  ที่ลัก  ประพฤติ         ไม่คิด  ไม่นึก  ศักดิ์ศรี
               อยากใช้  อยากได้  อยากมี        ทำให้  แสนดี  ลักพา
               ลักบ่อย  ที่ทำ  ชำนาญ             วิธีการ  แยบยล  จริงหนา
               ลักลัก  ลักลัก  ทุกเวลา             หากว่า  ใครเผลอ  เจอดี
               ลักเกือก  กระเป๋า  เอาหมด        เจ้าของ  รันทด  หมองศรี
               เดือดร้อน  ร้องไห้  ทุกข์ทวี        แสนดี   ดีใจ   ได้ลักมา
               วันหนึ่ง  จึงรู้  กันทั่ว                 แสนดี  ลักมั่ว   แล้วหนา
               ลักของ  ต่อหน้า  ต่อตา            เจ้าของ  ชี้หน้า  จับตัว
               คนมอง  จ้องหนา  สลด            รันทด   ทั่วกัน  สั่นหัว
               ลูกใคร  ขี้ลัก  น่ากลัว               ทำชั่ว   ทุกข์หนัก   เพราะลักเพลิน
               สุดท้าย  ยอมรับ เพราะจับได้     พ่อแม่   อับอาย   ขวยเขิน
               ทำไม  ถึงเลว   เหลือเกิน         พ่อแม่  หลบเดิน  อับอาย
               แสนดี  แสนร้าย   ขายหน้า       ยังพา  พ่อแม่  เสียหาย
               โรงเรียน  เสียชื่อ  มากมาย       ผลร้าย  ตอบแทน  แสนดี
               อย่าลัก  อย่าลัก  เลิกเถิด         ผลร้าย  พอเกิด   บัดสี
              ขี้ลัก  ขี้ลัก  หากมี                  แสนดี  นั่นแหละ  บทเรียน
              ขอเตือน  ลูกศิษย์  ที่รัก           อย่าลัก  จงขยัน  อ่านเขียน
              มากมาย  ที่ไม่   พากเพียร        จงเปลี่ยน  มาทำ  ความดี

                                                        แต่งเพื่อลงสารวรนารี เมื่อ 25  ก.พ. 2543
ไว้เป็นคติเตือนใจ สำหรับผู้ที่ชอบลักขโมย















   
ความดี  ความชั่ว

                                 ความดี  มีอยู่  ที่ไหน                    มันอยู่   ใกล้ใกล้  ตัวฉัน
                                 ความชั่ว  ก็เหมือน  เหมือนกัน       ความชั่ว  มันอยู่  ใกล้ตน
                                 ทางเลือก  ของคน  เรานี้              เลือกชั่ว   เลือกดี   ทุกหน
                                 ทำดี   ความดี   ช่วยดล                เป็นสุข   เหลือล้น  ท่วมใจ
                                 ทำชั่ว  ความชั่ว  บันดาล              เป็นทุกข์   เร็วพลัน   เชื่อไหม
                                 ทำดี   ทำดี   ต่อไป                     สิ่งชั่ว  เลวร้าย   เลิกเลย
                                 คนเลว   เพราะเขา  ทำชั่ว            ชีวิต  หมองมัว   เฉลย
                                 ทำดี   ได้ดี   แน่เอย                    เหมือนคำ   พังเพย  โบราณ
                                 ทำชั่ว  ได้ชั่ว  สนอง                    จงอย่า  ลำพอง  ฮึกหาญ
                                 คนชั่ว   ชั่วได้  ไม่นาน                 วายปราณ  เพราะกรรม  ตามทัน
                                 ชื่อเหม็น   กลิ่นเน่า  เผาผี            ไม่มี   ความดี   สร้างสรรค์
                                 ถูกคน  ประนาม  ทั่วกัน                 พงศ์พันธุ์   สันดาน  มันเลว

                                                                                  สะกิดใจได้น้อยนิดก็ดีแล้ว
                                                                                  แต่งไว้นานแล้ว จำไม่ได้ว่า
                                                                                  ปีไหน น่าจะ 2536 




                            อนิจจัง การศึกษา  พาสังเวช                   เกิดอาเพท  เพราะระบบ  การศึกษา
                            จะก้าวย่าง เป็นดั่งชาติ  พัฒนา                ลอกระบอบ  ของเขามา  น่าละอาย
                           เกิดสับสน  และวุ่นวาย หลายระลอก         ที่แนวทาง จากเมืองนอก  ทำเสียหาย
                           ถีบเด็กไทย  ให้ตกใน  อันตราย                พฤติกรรม  เริ่มเลวร้าย  ทวีคูณ
                           นักบริหาร   ชอบฝันฟุ้ง  ยุ่งตายห่า            กุลบุตร  กุลธิดา  ดีลาสูญ    
                           สิ่งดีงาม  ถูกทิ้งไป   ใจอาดูร                   สิ่งชั่วร้าย กลับเพิ่มพูน อนิจา
                  
                   
                   
 

       เตือนภัยวัยรุ่นไทย 10 ผลกระทบและภัยจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ทั้งที่เกิดต่อร่างกายตนเอง ครอบครัว รวมถึงผลต่อพฤติกรรมและสภาพจิตใจที่ยากเยียวยา และอาจจะติดตัวไปตลอดชีวิต
      ดร. อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันรามจิตติและผู้จัดการเครือข่ายวิจัยด้านการศึกษา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันวัยรุ่นตั้งแต่ระดับมัธยมขึ้นไปเริ่มยอมรับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ กันมากขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามยุคสมัยและเป็นกระแสที่เกิดขึ้นทั่วโลก ที่ปัจเจกบุคคลเริ่มเรียกร้องสิทธิเสรีภาพที่จะสนองความต้องการของตน โดยไม่ยอมถูกผูกมัดอยู่ภายใต้กรอบหรือจารีตของสังคมเก่า ประกอบกับแรงยั่วยุของสื่อต่างๆ ที่ทำให้วัยรุ่นต้องการปลดปล่อยแรงกดดันทางเพศมากขึ้น ซึ่งดร.อมรวิชช์ ชี้ว่า การมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นในปัจจุบัน แม้จะเป็นสิ่งที่วัยรุ่นมองว่าเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น แต่ก็มีภัยและผลกระทบที่ตามมาได้มากมายถึง 10 ประการที่อยากวอนให้วัยรุ่นได้รับรู้ถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้ และคิดให้ดีก่อนที่จะใช้ชีวิตเสรีทางเพศเกินขอบเขต ภัยและผลกระทบดังกล่าวได้แก่
       1) ท้อง-แท้ง-ทิ้ง
         ปัจจุบันการตั้งท้องในวัยเรียนเนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ระวังหรือไม่ ตั้งใจได้เพิ่มมากขึ้นและนำมาซึ่งปัญหามากมาย นับตั้งแต่ปัญหาการทำแท้งของวัยรุ่นทั้งที่ไปใช้บริการคลีนิคและที่กินยาเอง สูงซึ่งปัจจุบันสูงถึงกว่าปีละแสนราย การตั้งท้องและทำแท้งยังนำมาซึ่งชีวิตการเรียนที่พังพินาศไป รวมไปถึงบางรายที่มิได้ทำแท้ง ก็ต้องเริ่มชีวิตการเป็นแม่ตั้งแต่วัยรุ่นที่ยังขาดความพร้อมและสร้างปัญหา ทั้งแม่และเด็ก สำหรับวัยรุ่นที่คิดว่าจะไม่มีการตั้งท้องเพราะอุปกรณ์คุมกำเนิดนั้น จากงานวิจัยพบว่า แม้การใช้ถุงยางอนามัยเองก็มีโอกาสพลาดได้สูงถึง 20% หรือ 1 ใน 5 ครั้ง ที่มีเพศสัมพันธ์ที่ใช้ถุงยางอนามัยก็ยังมีโอกาสพลาดและตั้งท้องได้ เนื่องจากคุณภาพของถุงยางเสื่อมหรือการใช้ไม่ถูกต้อง ส่วนการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดก็มีโอกาสพลาดได้สูงถึง 5%
       2) ติดโรค-เครื่องเพศเน่า เสี่ยงติดโรค
            งานวิจัยทางการแพทย์ชี้ชัดว่า แม้จะมีการใช้ถุงยางอนามัยก็ยังไม่สามารถปลอดจากโรคติดต่อทางเพศต่างๆ เช่น โรคผิวหนังบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ รวมถึงโรคอื่นๆ เช่นโรคหนองใน ในหลายประเทศพบว่า กลุ่มวัยรุ่น 15-29 ปี เป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อกามโรคสูงที่สุด
      3) เรียนต่ำ-งานตก
           การมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นจะส่งผลการเรียนและการทำงาน งานวิจัยส่วนใหญ่พบว่า ผลของการมีเซ็กส์ในวัยรุ่นสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเรียนและผลการเรียนที่ตก ต่ำลงด้วย
       4) ชื่อทราม-ภาพเสีย
           หลายครั้งที่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่นต้องถูกเปิดเผย และสิ่งดังกล่าวได้นำไปสู่การทำลายเกียรติชื่อเสียง เช่น จะมีคำกล่าว “เสียตัวแล้ว” เป็นต้น และยังทำภาพลักษณ์ของวัยรุ่น เช่น จากเด็กชายที่ดูเป็นสุภาพบุรุษที่น่ารักกลายเป็น “เสือผู้หญิง” ที่ไม่น่าคบ เป็นต้น
      5) เซ็กส์เป็นหลัก-รักฉาบฉวย
         หรืออาจถูกหลอกซ้ำซาก วัยรุ่นหญิงจะพบว่า ตนเองถูกหลอกให้รักหรือหลงเพื่อที่แลกกับเซ็กส์ อย่างไรก็ตามมีข้อมูลที่ชี้ว่า เด็กวัยรุ่นชายเองก็จะถูกหลอกโดยเพื่อนชายและเพื่อนหญิงโดยใช้เซ็กส์เป็น สื่อเพื่อให้ได้ “สิ่งของ” หรือสิ่งต่างๆ ทีวัยรุ่นต้องการ วัยรุ่นจะเริ่มคุ้นเคยกับการมีเพศสัมพันธ์ตามความต้องการหรือความใคร่ มากกว่าความรู้สึกรัก ชินกับการใช้เซ็กส์เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงความสัมพันธ์ ซึ่งท้ายที่สุดความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นจะมีแต่ความไม่แน่นอนและไม่ ยั่งยืน
        6) ซึมเศร้า-เหงาง่าย
        จากการเปลี่ยนคู่บ่อยๆ ซึ่งจากงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า วัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์เสรีเปลี่ยนคู่นอนบ่อยโดยเฉพาะฝ่ายหญิง ซึ่งในส่วนลึกยังต้องการความผูกพันมากกว่าเพศชาย มักเป็นฝ่ายถูกทิ้งและอยู่ในภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ เสรีหลายเท่า และจากสถิติก็พบว่า วัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์เสรีมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าวัยรุ่นที่ไม่ได้มี เพศสัมพันธ์เสรี
       7) หมิ่นชาย-หยามหญิง
            ประสบการณ์รักฉาบฉวยจะเพาะบ่มทัศนคติทางลบต่อเพศตรงข้าม โดยฝ่ายชายก็มองเพศหญิงเป็นเพียงเครื่องสนองความใคร่ เท่าๆ กับที่ฝ่ายหญิงก็ฝังใจว่าผู้ชายเลวเหมือนกันหมด จนในที่สุดก็จะกลายเป็นคนที่มีท่าทีที่สร้างปัญหาในการคบหาสมาคมกับเพศตรง ข้าม
        8) ดูถูกตัวเอง-วังเวงไร้ค่า
            การที่วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เสรีมากขึ้นทำให้การมองเห็นคุณค่าตนเองเปลี่ยนไป การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นส่งผลให้วัยรุ่นมองกิจกรรมทางเพศเป็นเพียง “การแลกเปลี่ยน” อารมณ์และวัตถุทางเพศ ยิ่งเมื่อมีบ่อยครั้งขึ้นการเคารพและเห็นคุณค่าตนเองก็จะยิ่งน้อยลง
       9) เจอคนจริงก็แห้ว-เรื่องที่แล้วตามหลอกหลอน
           วัยรุ่นบางคนอาจจะปฏิเสธตัวเองเมื่อมีโอกาสพบคนที่ดีจริงๆ เนื่องจากความรู้สึกดูถูกตัวเองหรือต้องพยายามปิดบังเบื้องหลังตนเอง โดยเฉพาะฝ่ายหญิงจะมีความรู้สึกว่าตนเองมีประสบการณ์ไม่ดีหรือไม่มีค่าเพียง พอ ในทางตรงกันข้ามฝ่ายชายเองเมื่อพบผู้หญิงดีๆ ก็อาจเสี่ยงต่อได้รับการปฏิเสธจากผู้หญิงดีๆ เช่น กัน เพราะถือว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ดีมากพอที่ควรคบหา
      10) ชีวิตคู่อาจเฉา-ระยะยาวครอบครัวอาจพัง
           อันเนื่องมาจากความทรงจำที่เลวร้ายในวัยรุ่นของกันและกัน ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในการไม่เคารพกัน หรืออาจทำลายชีวิตคู่อันเนื่องมาจากภาวะเจ็บป่วยจากกามโรคหรือการทำแท้งที่ ทำลายภาวะเจริญพันธุ์ของตนเอง

 แหล่งที่มา :  http://www.clipmass.com/story/3486

                  
                         อาการถูกมอมยา...และการป้องกันไม่ให้ถูกมอมยา

            อาการถูกมอมยา...และการป้องกันไม่ให้ถูกมอมยา‏ (ศูนย์เตือนภัยผู้หญิง)

          ภัยสังคมมีเยอะ..บทความนี้คงมีประโยชน์สำหรับ สาว ๆ ทุกวัย...ไม่มากก็น้อย

          ปัจจุบัน มักมีข่าวเกี่ยวกับยานอนหลับซึ่งใช้ในการก่ออาชญากรรมปรากฏเป็นข่าวหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์อยู่เป็นระยะๆ จากอดีตที่เคยใช้เพียงเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์หรือเหล้าสำหรับมอมเหยื่อ เพื่อล่วงละเมิดทางเพศ แต่ระยะหลังได้หันมาใช้ยานอนหลับเป็นเครื่องมือสำหรับการมอมเหยื่ออย่างง่าย ดายและรวดเร็ว เพียงอาศัยการพูดคุย ทำท่าทางให้สนิทสนม เมื่อเหยื่อเผลอจึงแอบใส่ยาลงไปในเครื่องดื่มหรืออาหาร

          ยานอนหลับ (Hypnotic) ที่ ถูกนำไปใช้นั้น เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยมีฤทธิ์ทำให้หลับ คลายกล้ามเนื้อ จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ ตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 ซึ่งผู้ที่มีสิทธิสั่งจ่ายได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ และผู้ที่จะใช้ยาในกลุ่มนี้ต้องใช้ตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น ผู้ได้รับ

          ยากลุ่ม นี้ (กลุ่มเบนโซไดอาเซปีนส์ที่มีการออกฤทธิ์เร็ว) จะมีอาการง่วงซึม มึนงง เดินเซ ปวดศีรษะ และสูญเสียความทรงจำ ความจำในระหว่างที่ได้รับยาลดลง การตัดสินใจไม่ดี ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการสั่นและฝันร้าย หากได้รับมากเกินไป หรือได้รับร่วมกับแอลกอฮอล์ อาจกดการหายใจ ทำให้เสียชีวิตได้

          การถูกมอมยามักเกิดจากการจงใจวางแผนของมิจฉาชีพ ดังนั้นจึงต้องระวังตนเองอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสการถูกมอมยา โดยมีแนวทางการปฏิบัติดังต่อไปนี้

          1. กรณีที่ไปงานเลี้ยงหรืองานสังสรรค์ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์
          2. หากต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ให้ดื่มพอประมาณ เพื่อให้มีสติอยู่ตลอดเวลา
          3. รับเครื่องดื่มจากบุคคลหรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ อย่ารับเครื่องดื่มจากผู้ที่เราไม่รู้จักดี หรือไม่สามารถเชื่อใจได้ และเครื่องดื่มนั้นต้องไม่ได้ผ่านการเปิดฝามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลม สำรวจภาชนะบรรจุว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยถูกเจาะหรือรอยปิดด้วยเทป หากเป็นเครื่องดื่มที่ต้องผสมควรไปดูการเตรียมเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์และ รับมาด้วยตนเอง
          4. ต้องมีเพื่อนไปด้วยเสมอ และเป็นเพื่อนที่แน่ใจว่าสามารถดูแลซึ่งกันและกันได้
          5. ดื่มและกลืนอย่างช้า ๆ เพราะหากเครื่องดื่มถูกใส่ยาลงไป จะทำให้มีเวลาพอที่จะระวังตัวได้ทัน
          6. อย่าแบ่งหรือแลกเปลี่ยนเครื่องดื่มและอาหารกับผู้อื่น
          7. อย่าดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในจากภาชนะส่วนรวม หรือภาชนะเปิด เช่น อ่างใส่พั้นซ์ เพราะง่ายต่อการถูกใส่ยา หรืออาจถูกใส่ยาไปแล้ว
          8. หากรู้สึกว่ารสหรือกลิ่นของเครื่องดื่มเปลี่ยนไปจากเดิม ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มนั้นต่อยามอมบางชนิดมีรสเค็ม
          9. ไม่ควรละสายตาจากเครื่องดื่มของตน หากเป็นไปได้ควรใช้มือปิดที่ปากแก้วหรือภาชนะ ก่อนที่จะต้องหันไปทางอื่นหรือสนทนากับบุคคลอื่น
          10. เมื่อต้องเข้าห้องน้ำหรือออกไปเต้นรำ กลับมาแล้วอย่าลืมที่จะเปลี่ยนแก้วใหม่
          11. หาก เริ่มรู้สึกว่ามีอาการแปลก ๆ หรือรู้สึกเมาหลังจากดื่มไปได้เพียงเล็กน้อย ให้รีบขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ไว้ใจได้ พึงปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า เพราะอาจจะเป็นคนที่ลอบวางยาเรา

อาการที่บ่งบอกกว่าเราถูกมอมยา

          >> รู้สึกเมาโดยไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มเพียงเล็กน้อย
          >> รู้สึกมึนงงและง่วงนอนโดยไม่ทราบสาเหตุ

          นอกจากนี้เราควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับยาต่างๆ ที่ใช้ในการมอมเหยื่อ ให้ทราบถึงรูปแบบการใช้และผลที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันตนเองหรือสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้อื่นได้



ขอขอบคุณข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยผู้หญิง
  

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553


 ....
เบื้องต้นคาดว่านางชวนชมคงเครียดที่พ่อแม่ไม่ยอมรับเด็กเป็นหลาน ประกอบกับสามีหรือพ่อของเด็กคงหนีหายหน้าไป ไม่ยอมรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป พอกลับมาถึงห้องหาทางออกไม่เจอ เลยใช้เชือกรัดคอลูกตัวเองตายอนาถดังกล่าว.

    แหล่
งข้อมูล  หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ 28 ก.ค 48


                          ฆ่าลูก...ประชดรัก
                            ---------------------------
โถพุทโธ นะเวรกรรม ทำบาปหนัก        โถธรรมมัง แน่ยิ่งนัก นรกหมาย
โถสังฆัง นะลูกน้อย พลอยชีพวาย            เดรัจฉาน อย่างวัวควาย ยังถอนใจ
ก่อนมีรัก ควรตระหนัก ทั้งชายหญิง           ว่ารักจริง และเราพร้อม มีลูกไหม
หากไม่พร้อม อย่าได้ยอม เป็นของใคร       สุขที่ได้ คงไม่คุ้ม กลุ้มอกเอย
รักสนุก คิดถึงทุกข์ ให้ถนัด                     แน่นอนชัด ทุกข์เร้ารุม สุมอกเอ๋ย
เกิดเป็นหญิง ควรหยิ่งศักดิ์ อย่างหนักเลย   ก่อนร่วมเรียง เคียงเขนย กับใคร ๆ
ยิ่งหนุ่มสาว ในวัยเรียน วัยเขียนอ่าน          วัยแตกพาน เป็นวัยรุ่น หรือวัยใส
อย่าริรัก ในวัยเรียน จนเพี้ยนไป                เรียนบรรลัย อนาคต ก็หมดกัน
เป็นผู้ชาย อย่าทำร้าย สตรีเขา                 ขอให้เรา รักเพื่อสร้าง ทางสู่ฝัน
รักแบบเพื่อน คอยตักเตือน กันและกัน        รักสร้างสรรค์ อย่างจริงจิต มิตรไมตรี
ไม่รักเขา ก็อย่าหมาย ทำลายเขา              จนปวดเร้า ทุกข์หนัก หมดศักดิ์ศรี
ขอเตือนจิต ศิษย์ทั้งหลาย ไว้จงดี              ขอศิษย์มี ความรัก ถูกหลักเอย

                                                            28 ก.ค 2548


















                      บ่นข้างหู ของครูขี้บ่น
 .........................................            ..............................................                  

หากดูคน ต้องหยั่งรู้ ดูข้างใน                ให้ดูใจ ชั่วหรือดี ที่ใจคน
แม้นหน้าตา หล่อเหลา หรือสดสวย        ถ้าใจห่วย หยาบช้า อย่าไปสน
ใครคบค้า จักอาภัพ พาอับจน               เลือกคบคน สิ่งแรกที่ มีใจงาม
อยากเตือนจิต ศิษย์ไว้ ทั้งชายหญิง       จากใจจริง ไม่อยากให้ ใครเหยียดหยาม
แม้แต่งหน้า ทาแป้ง แต่งพองาม           อย่าลามปาม เทียบเทียมเท่ห์ โสเภณี
เตือนศิษย์ชาย ให้เกียรติ์ สตรีเขา          อย่าจิตเน่า เอาเปรียบหญิง สิ่งเสื่อมศรี
ศิษย์หญิงให้ รักนวลสงวน ซึ่งกายี         อย่าเป็นหญิง กาลิกิณี มีมลทิน
อะไรที่ ไม่ดี มีความชั่ว                        อย่าเกลือกกลั้ว อย่าหลงใหล ใฝ่ถวิล
จงหลีกหลบ ห่างไกลห่วง บ่วงราคิน      ขอศิษย์สิ้น จากความทุกข์ มีสุขเอย

                                                     ขออภัยในคำไม่สุภาพบางคำนะครับ
 
                
                 













                                         กิจกรรมชุมนุม
                                        (อย่าเป็นเช่นว่านี้เลย)

กิจกรรม ชุมนุม ดีนะ
จุดประสงค์ ครูวาง อย่างไร
เสริมสร้าง ทักษะ ความรู้
เสียเกียรติ ครูบา อาจารย์
ไม่เข้า ไม่สอน อะไร
นักเรียน เรียนเต็ม เวลา
ให้ผ่าน ผ่านผ่าน ผ่านหมด
เด็กออก เด็กย้าย ยินยล
ที่ขำ ยังจำ ไม่หาย
ฟังแล้ว ยิ่งท้อ แท้ใจ
ใครรู้ ใครฟัง นั่งคิด
หน้าที่ พึงทำ ที่มี
เวลา ประเมิน ผลงาน
ว่างาน มากมาย กว่าเคย
คะแนน ท่านนี้ ดีเกิน
ที่เขียน ไม่ใช่ ที่ทำ
นี่แนะ ครูไทย ของเรา
ถ่ายเอกสาร กันแสน วุ่นวาย
หยิบมัด จัดเย็บ เล่มใหญ่
พิมพ์สี ต้องตา น่ามอง
นั่งมอง ผลงาน เล่มโต
ผลงาน ของท่าน โน้นไง
เกเร ชู้สาว คาวคลุ้ง
คุณภาพ ต่ำลง ทุกครา
ลองคิด คิดดู ดีดี
อย่าหลง ข้า "ครู" มานาน
ที่พูด จากใจ ไร้จริต
ผิดพลาด ขอจง เมตตา


อย่าล่ะ มองไร้ ความหมาย
จัดไป ตามที่ ต้องการ
คุณครู อย่าได้ หักหาญ
หวังท่าน ไม่ทำ หรอกนา
สิ้นภาค ตัดสิน ผลหนา
สิบแปด สัปดาห์ ทุกคน
รันทด ช่างน่า ฉงน
ทุกคน ผ่านได้ อย่างไร
เด็กตาย ผ่านได้ ไฉน
ใช่ใคร คุณครู แสนดี
พินิจ คิดน่า บัดสี
ดูซี ปล่อยปละ ละเลย
ครูท่าน ค่อย ๆ เฉลย
ภิเปรย ตัดพ้อ พึมพำ
ผลการ ประเมิน น่าขำ
ท่านนำ มาแต่ง มากมาย
มัวเมา เอกสาร เช้าสาย
อีกทั้ง รูปถ่าย ก่ายกอง
ปกนอก ปกใน ทั้งสอง
ขนพอง ยิ้มรื่น ชื่นใจ
ดีใจ อักโข ใช่ไหม
นักเรียน เหลวใหล ติดยา
อีลัง ตังนุง แล้วหนา
นั่นแหละ เจ้าค่า... ผลงาน
อย่ามี อัตตา ตาหวาน
อย่าออก อาการ โกรธา
ไม่คิด แข่งขัน หรอกหนา
วันทา ขอโทษ เพื่อนครู


ครูรุณย์ แต่งเอาไว้พอได้คติเตือนใจไว้บ้าง
24 กรกฎาคม 2547

         













           ศิษย์โง่เพราะใคร

ชวนกิน น้ำชา พาพ้น
สูญเสีย ความสาว มีมา
เขาหลับ ไปตั้ง นานแล้ว
อายุ ยังน้อย เกินไป
เพิ่งจบ ปอหก สองปีก่อน
อนิจจา ชีวิต หมองมัว
นี้คือ เรื่องจริง หญิงชาย
สังคม ส่งเสริม เติมไฟ
โรงเรียน เปลี่ยนไป มากมาย
สอนจน สมองใหญ่ ใจดาวน์
คนชั่ว ใช่ชั่ว แต่เกิด
ชั่วตอน เข้าโรง เรียนไง
โรงเรียน โรงมั่ว มัวมิด
ผู้สอน ก็เพี้ยน เต็มที
ทำกัน เฉพาะ เอกสาร
เวลา เสียไป มากมาย
พบปะ นักเรียน เมื่อสอน
ทักทาย นักเรียน เพลิดเพลิน
เดี๋ยวนี้ ที่ว่าง ไม่ว่าง
ตอบแบบ สอบถาม จนเอียน
บางคน ทนอยู่ ไม่ไหว
เหลือแต่ คุณครู จนจน
ไม่มี สำรอง งานการ
เป็นครู ผู้เฉื่อย ชาจัง
ครูใด สนใจ ประกวด
ครูต้นแบบ แห่งชาติ ทำมา
เอกสาร ภาพถ่าย อุปโลก
นี้แหละ งานหลัก ของครู
ใครคิด กันบ้าง อย่างหนู
ซีน้อย ไม่เกี่ยว อะไร
เสียสละ เพื่อหนู ครูหนา
ครูต้นแบบ อย่าทำกำ มะลอ
วอนครู อย่าเห็น แก่ตน
หากมี ครูดั่ง จำนรรจ์
ไปนอน บ้านเช่า เขาหนา
บูชา รักเธอ สุดใจ
เธอนอน ตาแป๋ว หวั่นไหว
ทำไม ต้องมา เสียตัว
ปีนี้ เจ้าหล่อน มีผัว
ดีชั่ว แยกแยะ อย่างไร
มากมาย ชีวิต เหลวใหล
หญิงไทย สิ้นศรี มีคาว
ไม่ได้ อบรม หนุ่มสาว
ลืมสิ้น รากเหง้า ชาวไทย
เชื่อเถิด เพิ่งชั่ว วัยใส
ลองเจีย -ระไน ให้ดี
ชีวิต ผู้เรียน เปลี่ยนสี
มากมี เรื่องรุม สุมกาย
นั่งโต๊ะ ทำงาน เช้า-สาย
ที่ให้ นักเรียน น้อยเกิน
แต่ก่อน เยี่ยมเยียน เดินเหิน
เจริญ กายใจ วัยเรียน
สะสาง เอกสาร เขียนเขียน
คลื่นเหียน เบื่อหน่าย เต็มทน
ลาออก กันไป ทุกหน
ขืนลา ออกพ้น เอวัง
ทนถ่อ สังขาร สิ้นหวัง
ทุกโรง เป็นดั่ง พรรณนา
ส่งแบบ สำรวจ ไปหา
ตั้งหน้า ประชัน กันดู
วิปโยค จริงแท้ แม่หนู
เป็นอยู่ ล้นหลาม ทรามวัย
ว่าครู ที่ดี แบบไหน
เพียงใจ เป็นครู เพียงพอ
ตั้งหน้า อบรม หนูหนอ
ครูแห่ง ชาติก็ พอๆกัน
เป็นคน คิดอย่าง สร้างสรร
ไร้วัน ศิษย์เลว โง่งม

                                              ครูรุณย์ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖



                                                 เตือนใจวัยสาว


              สวัสดีครับผม พอดีได้ห่างหายไปน๊านนานเลยทีเดียว ไม่ได้แต่งกลอนอะไรเพิ่มเติม เพราะมัวแต่ปรับปรุงบล็อกประจำวิชาอยู่นะครับ และก็เป็นการบังเอิญที่ได้จัดบ้านเพราะกองทัพปลวกรุกราน จึงไปเจอแฟ้มที่มีกลอนที่แต่งเอาไว้ในครั้งก่อน ๆ จึงหยิบนำมาให้พอได้อ่านกัน จะได้เกิดข้อคิดนิด ๆ หน่อย ๆ
ก็ดีใจจังหูแล้วนะครับ พบกันเลยครับ

                                              ขี้หกอย่างแรง

                 ดีใจ  อย่างแรง  เพื่อนเหอ          แฟนเหวอ  มารับ  หล่อเหลา
                 ฮิฮิ  บายใจ  ไม่เบา                   ตัวเรา   มีชาย  หมายชม
                 โบกมือ  บ๋ายบาย  เพื่อนพ้อง       ยิ้มย่อง  ผ่องใส  ไร้ขม
                 ซ้อนท้าย  มอไซด์  รับลม           ขำคม  บายใจ  อย่างแรง
                 เหอะเหอะ  สาวนี่  ง่ายจัง           ทักทาย  สองครั้ง  ได้แหลง
                 ฮิฮิ  จีบง่าย  อย่างแรง               จัดแจง  ขับเวียน  ชายเล
                 วนแวะ  วงเหล้า  ชายหาด          เพื่อนชม  สามารถ   ถมเถ
                 นั่งจีบ  กันนาน  นมเน                ชายเท่  หญิงหวัง  รักจริง
                 แม่เก็บ  ผักบุ้ง ข้างบ้าน              ล้างจาน  หุงข้าว  สุงสิง
                 พ่อขาย  แรงเหนื่อย  เมื่อยจริง      ทุกวัน  ยิ่งแก่  โรยรา
                 อีสาว  มันกลับ  ค่ำค่ำ                มันทำ  รายงาน  มากหนา
                ไม่เคย  ใช้งาน  ใดนา                ให้ลูก  ศึกษา  เพียวเพียว
                เทวดา  มือสั่น  คันฉ่อง              จ้องมอง  วงเหล้า  ตาเขียว
                "เวรเอ๋ย  สันดาน  จริงเชียว"         กราดเกรี้ยว  ตวาด   เสียงดัง
                พระอินทร์  ตกใจ  ไหรวะ             "เบาหน่อย  ซิจ๊ะ   สมหวัง"
                รามสูร  แบกขวาน  รุงรัง              มานั่ง  ใกล้องค์   เทวา
                เทวดา  ยกโทร  ระศัพท์              นัดกับ  นวลน้อง  เมขลา
                ช่วยล่อ  รามสูร   สักครา              รอท่า   ตรงวง   เหล้าเลว
                เทวดา  สะกิด  ขุนขวาน               เมขลา   ล่อท่าน  เหววเหวว
                รามสูร  ขว้างขวาน  รวดเร็ว          เปรี้ยงเปลว  ฟ้าผ่า  กลางวง
                วงเหล้า  กระเจิง  ฉิบหาย            ล้มตาย  ครวญคราง  เสียงหลง
                ข่าวดัง  หนังสือ  พิมพ์ลง            อนงค์  แฟนชาย  ตายเคียง
                พ่อแม่  โศกเศร้า  เหลือที่            ลูกเรา  นั้นดี  สุดเหวียง
                ไม่น่า  มาตาย  นอนเรียง             ปล่อยเสียง  สะอื้น  โศกา
                พระอินทร์  สงสาร  ยิ่งนัก            มองพักตร์  สมหวัง  ปรึกษา
                "เด็กทำ  รายงาน  นี่หว่า             เรื่องหาด  สมิหลา  ราตรี"
                "พอพอ  ไออินทร์  ทุเรศ             หกเปรต  จริงจริง  พวกผี"
                "สมหวัง  ขอร้อง  สักที               อย่ามี   การตาย  กันเลย"  
                สงสาร  พ่อแม่  ไม่รู้                   ยิ่งดู    สงสาร  จังเหวย
                ช่วยชุบ  ชีวิต  ทรามเชย              ได้เลย  เพื่อนอินทร์  ไอคอ
                กูอยาก  ให้หัว  มันสั่น                 แทนสัน  ดานขี้  หกหนอ
                ตกลง  ตามนี้  ก็พอ                    แม่พ่อ  ดีใจ  ฟื้นคืน
                ทุกวัน  เด็กสาว  พิการ                หัวสั่น  อยู่อย่าง  ขมขื่น
                แฟนชาย  เคยรัก  กลมกลืน          ไม่คืน  บ๋ายบาย  หายไป
                อนิจจัง  ทุกขัง  เวทนา                เวรกรรม  ลูกยา  เฉไฉ
                ขี้หก  ขี้คร้าน  บรรลัย                  เอวัง  หมดใจ  ต๋ายตาย
                องค์อิน  พวกนี้  มีมาก                 หลายหลาก  แต่งสวย  โฉบฉาย
                ขนคิ้ว  ดัดกัน อีตาย                   ปากแดง  มากมาย  ฉาบทา
                เกงวอร์ม  พลา  นามัย                 ทำไม  ใกล้อี   หลุดหนา
                ปลายเกง  เหยียบเย่ง  บาทา         ปลายขา  ลากถู   พื้นดิน
                เหอะเหอะ  เคอะจริง  หญิงชาย      เสียดาย  เสียทรัพย์  เสียสิน
                ขาแคบ   จ้างถ่าง  ยุพิน               จนสิ้น  ทรงเกง  กีฬา
                เทวดา  ชี้นิ้ว  เพื่อนอินทร์             พักตร์ผิน  ดูโน้น  ซิหนา
                เหอะเหอะ  ไอหยะ  ละกา             หรอยบ้า  ล้อมวง  แต่งตัว
                ทาแป้ง  แต่งหน้า  ทาลูด              โบล๊ะเหมือน  เหล็กขูด  ไร้หัว
                พวกนี้  เพื่อนเหอ  น่ากลัว              ติดศูนย์  หลายตัว  แน่เลย
                รามสูร  แทรกว่า  ผ่าไหม               ซัดขวาน  บรรลัย  ไหมเหวย
                องค์อินทร์  ร้องว่า  อย่าเลย            เพื่อนเอย  ทำดี  ได้ดี
                ทำชั่ว  ได้ชั่ว  รับกรรม                  ใครทำ  เสื่อมศักดิ์  เสื่อมศรี
                อนาคต  มันหรือ  จะดี                   ไม่มี  หรอกหนา  เพื่อนเอย
                ก็ศูนย์  มันติด เป็นหาบ                  มอสอ  ขนาบ  อีกเหลย
                ติดรอ  แถมอีก  ทรามเชย               ชัวเลย  บัพฟาโล่  โห่ฮา
                ฮิฮิ  บัพฟาล่า  ฟาโล่                    พุทโถ  ไออินทร์  นี่หนา
               ไปไป  สังสรรค์  สักครา                  ร้านไหน  ดีหว่า  ท่านราม
                อยากไป  ร้านมี  โคโยตี้                 อะโกโก้  ก็ดี  หวาบหวาม
                เหอะเหอะ  ไออินทร์  ลามปาม         ที่มัน  ไม่งาม  อย่าไป
                ไปไหน  ก็ได้  ว่ะเพื่อน                   แชเชือน  อยู่ทำ  ไอไหร
                สตาร์ท  ช๊อปเปอร์  คู่ใจ                  ซ้อนท้าย  กันไป  ลับตา
                คนเล่า  รู้สึก  เจ็บอก                      สงสัย  นอนตก   เตียงสา
                ฝันไหร  ถึงองค์  เทวา                    รามสูร  ก็มา  ร่วมงาน
                พระอินทร์  ก็มา  ร่วมวง                   ฝันหลับ  ฝันหลง  ฝันหวาน
                สาระ  อยู่ไหน  เล่าจารย์                  ศิษย์ศิษย์  ประมาณ  ดูเอา
                อะไร  พอได้  คติ                           ทบทวน  ดูซิ    อย่าเขลา
                เล่ามา  พอเป็น  ทำเนา                   หลับต่อ  ฝันยาว  สวัสดี

                                     
        
                                             ขบวนการรักว.ฉ.

               มันใช่  เด็กวอ  เปล่าว๊ะ                 อุบ๊ะ  ทำวอ  เสื่อมศรี
               แต่งวอ  ใยเลว  สิ้นดี                   สุมหัว  ดูดบุหรี่  ประจาน
               ผู้คน  สัญจร  ไปมา                     เห็นแล้ว  ส่ายหน้า  สงสาร
               หากเป็น  วอครั้ง  โบราณ              โดนเตะ   โด่งนาน  แล้วเอย
               ครูเตือน  เท่าไร  ไม่ฟัง                 ยังนั่ง  สูบริม  หนนเฉย
               ซ้ำหน้า  กลุ่มเดิม  เคยเคย             ปล่อยปละ  ละเลย  เกินไป
               จึงอยาก  ให้วอ  เอาจริง                อย่าทำ  เฉยนิ่ง  ได้ไหม
               อุดมการณ์  ครูอย่า  หายไป            ตามกาล  ตามวัย  โรยรา
               ตักเตือน  ภาคทัณฑ์  ลงโทษ          ได้โปรด  ทบทวน  หน่อยหนา
               ทำแค่  รายเดียว  ซินา                  พวกบ้า  คงน้อย  ถอยครัน
               สูบยา  แดกไหร  ไม่ว่า                  อย่ามา  แต่งวอ  ฉอฉัน
               คนไหน  ยังขืน  ดึงดัน                  เชิญมัน  ลาไป  ไกลวอ
               ไม่รัก  อย่าอยู่  ให้รก                    ทำวอ  สกหมก   เลยหนอ
                ชิ่วชิ่ว  ไปไป  ไกลวอ                   วอนขอ  อย่าได้  หวนมา
               เด็กดี  ยังมี  อีกมาก                      ที่อยาก  เรียนวอ  ฉอหนา
               อย่าอยู่  ให้หนัก  พารา                  ไปต้า  ไปเร็ว  ไปไป



                                             สวยนอก สวยใน

               ขายหน้า  วอฉอ  อย่างแรง              ลายแทง  ศิลปะ  ข้างฝา
               ห้องเรียน  ห้องน้ำ  นานา                ข้างฝา  ภาษา  หยาบคาย
               โต๊ะเรียน  รอยเขียน  รอยขีด            รอยกรีด  ลายเส้น  เสียหาย
               สถานที่  การสอบ  มากมาย              ด่าได้  ศิษย์ไร้  ศีลธรรม
               นำไป  ติฉิน  นินทา                       ว่าวอ  สวยนอก  คมขำ
               ภายใน  เสื่อมเสีย  พฤติกรรม           เด็กทำ  ชั่วร้าย  หน่ายใจ
               โรงเรียน  เครื่องแบบ  น่ารัก             วงพักตร์  วองาม  สดใส
               อย่าให้  ดีนอก  เสียใน                   ร่วมมือ  แก้ไข  ด่วนเอย

                                              สอบปลายภาค

              สอบคือ  สุดท้าย  ปลายภาค             ง่ายยาก  ไม่เท่า  กันหนา
              ง่ายดี     คนมี  ปัญญา                    ยากบ้า  คนคร้าน  มันครวญ

                                              เกรด

              เกรดคือ  ปรอท  วัดค่า             ศึกษา  มีผล  แค่ไหน
              สามสี่  เรียนดี  ดีใจ                 ศูนย์รอ  เตือนให้  ปรับตน

                                         ผ-มผ

             ได้ผ   คือผ่าน  ศึกษา            ชุมนุม  ตราเป็น  หลักฐาน
             มผ.  ก็คล้าย  ประจาน            ไม่ผ่าน  ยอมรับ  ปรับปรุง

                                          มส.

             มส.  ไม่สน  สิ่งใด              ให้ไว้  ตอกย้ำ  คำเฉลย
             เป็นคน  ยอดแย่  จริงเอย      รีบเลย  กลับตัว  กลับใจ

                                         ด่าแม่

            แม่เรา  เคารพ  บูชา          ให้เพื่อน  "ด่าแม่"  แย่ไหม
            เลี้ยงดู  ส่งเสีย  เราไง        ห้ามใคร  "ด่าแม่"  ตนเอย

                                       โต๊ะเรียน

           โต๊ะเรียน  เก้าอี้  มีให้              นักเรียน  ไว้ใช้  อ่านเขียน
           ทำลาย  มันจน  จวนเจียน         จะเปลี่ยน  เป็นเศษ  ไม้กอง

                                         ส้วม

           มีส้วม  เอาไว้  ถ่ายขี้               หรือฉี่  สบาย  สุขสันต์
           ถีบทุบ  ทำร้าย  ทำลายมัน        ปวดขี้  ฉี่-ฉัน  ไปหนใด

                                         ภาพจากอินเตอร์เน็ตไม่เกี่ยวกับเนื้อหาบทกลอน

                                        หนุ่มเน่า  สาวร่าน

           หนุ่มเน่า  เจ้าของ  หุ่นล่ำ                   ตัวดำ  หมูกหลุบ  ปากเขียว
           เป็นสิว  เต็มหน้า  เลยเชียว                 ตัวเหนียว  เต่าเหม็น  เหลือทน
           หวีผม  ด้านหน้า  ชี้แช้                       เดินโยก  เหมือนแย้  หนีฝน
           ปากเหม็น  กลิ่นเหมือน ศพคน             สามวา  ไม่พ้น  กลิ่นมัน
           ใบหู  เจาะรู  ถี่ยิบ                             เป็นสิบ  กว่ารู  ดูขัน
           หูใคร  ทำไม  อัศจรรย์                       แมงวัน  วางไข่  ไซรู
           เป็นหนอง  สองรู  หูร้าว                     หูเน่า  เพราะเบล่อ  เจาะหู
           มาเรียน  ไม่เรียน  ทุกครู                    รู้รู้  เด็กเวร  ตะไล
           ติดศูนย์  มส.  เต็มฉาด                     เบล่อคาด  ผุดจาก  ขุมไหน
           ไม่มี  ความดี  ใดใด                         ทำได้  แต่สิ่ง  เลวทราม
           ถีบตู  ห้องส้วม  จนพัง                      เพื่อนเข้า  ไปนั่ง  หวั่นหวาม
           เปิดเผย  นั่งโถ  ทุกยาม                    ทุกนาม  ใช้ขัน  กั้นบัง
           จุดยา  สูบกัน  ควันฟุ้ง                      ฝูงยุง  แตกตื่น  ควันขัง
           ขืนอยู่  พวกกู  มรณัง                       บินพรั่ง  พรูไป  ไกลมาร
           ขึ้นลง  ใช้ลิฟท์  สนุก                       บรรทุก  ขึ้นลง  โดยสาร
           เดี๋ยวขึ้น  เดี๋ยวลง  สำราญ                 ลิฟท์มัน  ไม่หอน  พบที
           สันดาน  เถเถ  เสือกเสือก                  ไอ้เบื้อก  ไม่รัก  ศักดิ์ศรี
           ลูกกลิ้ง  ของเมาท์  ที่มี                     มันแคว็ก  ไปฝาก  พ่อมัน
           แล้วเปรต  จริงจริง  ซ็อกแซ็ก              สุดเปรต  แห่งเด็ก  บ้าหวัน
           ทำเบล่อ  เลวร้าย  รายวัน                   "หนุ่มเน่า" คือมัน  สันดาน
           ที่พูด  วฉ.  ไม่มี                               พวกผี  ที่ว่า  ตาหวาน
          ล้อเล่น  ศิษย์รัก  ของจารย์                  อย่าพาล  โกรธา  ว่าครู
          ขอศิษย์  ตั้งใจ  ศึกษา                        ควรมี  จรรยา  นะหนู
          คิดดี  ทำดี  พธู                                  ขอศิษย์  ของครู  โชคดี

                                         ภาพจากอินเตอร์เน็ตไม่เกี่ยวกับเนื้อหาบทกลอน

(และแล้ว) คุณหนุ่มเน่า กับสาวร่าน   มาฝันปิ๋ง            กระหนุงหนิง  ใต้ต้นไม้  ได้จู๋จี๋
           อันสาวร่าน  เธอก็หรอย  เสียเต็มที                หาไม่มี  สิ่งใดดี  แต่อย่างใด
           ตัวดำเตี้ย  แลอ้วนตุ้ย  แถมพลุ่ยพุง               ผมเผ้าหล่อน  ก็หยิกยุ่ง  รับไม่ไหว
           ปากหล่อนแดง  ด้วยฤทธิ์แรง  น้ำอุทัย           ตีนก็ใหญ่  สวมใส่เกือก  เลือกหมดเบอร์
           แขนก็โกก  สะโพกใหญ่  ชอบย้ายโยก           เสียงก็ใหญ่  แข็งโปกโปก  แหละเธอเหอ
           จึงอยู่โบล๊ะ  อย่างรุนแรง  แหลงจริงเออ         อีกนิสัย  ของสาวเธอ  เบล่อพอกัน
           ชอบทาแป้ง  จนหน้าสาว  ขาวน่ากลัว           เหมือนกากพร้าว  ซาวขี้วัว  เลยจอมขวัญ
           ยามหัวเราะ  ใจแทบสิ้น  เหม็นขี้ฟัน              แมงวันบิน  ใกล้ปากหล่อน  ร่อนลงตาย
           ยามพูดจา  ล้วนหยาบช้า  ด่าพ่อแม่              อ้ายอีแอ้  หวีดเสียงก้อง  ร้องหวีดว้าย
           ชอบกดโทร  โทรน๊านนาน  มันไม่อาย          โทรจีบชาย  น่าสงสาร  สาวร่านเรา
           ครูเข้าส้วม  ทำธุระ  นะตั้งนาน                    ออกมาเห็น  สาวตาหวาน  โทรกับเขา
           หรอยจริงจริง  หรอยเสียจ้าน  ร่านไม่เบา        หลงมัวเมา  มองสิ่งชั่ว  มั่วว่าดี
           สร้างปมเด่น  ไม่ยักเห็น  เป็นปมด้อย            ดีมีน้อย  ก็จางหาย  พาหน่ายหนี
           สร้างสิ่งชั่ว  พฤติกรรม  ย่ำราคี                   ไม่เคยมี  ความสำนึก  ตรึกตรองตน
           น่าอนาถ  เป็นเวรกรรม  กระหน่ำต่อ             คุณแม่พ่อ  ไม่เคยสุข  ทุกข์ทุกหน
           ครูเชิญพบ  พ่อคอยหยบ  หลบหน้าคน          เชิญเสียจน  พ่อชอกช้ำ  ระกำใจ
           ไม่เคยเชิญ  พ่อไปชม  นิยมลูก                   มีแต่ถูก   ครูต่อว่า  ท่าไม่ไหว
            ขอกราบเท้า  คุณลูกพ่อ  หนอทรามวัย        โปรดเห็นใ  ทั้งแม่พ่อ  หนอลูกเอย
            สร้างสิ่งดี  หนีสิ่งชั่ว  อย่ามั่วสุม                 ก่อนชั่วรุม  จนเสียท่า  หนาลูกเอ๋ย
            ตั้งใจเรียน  เพียรศึกษา  หนาทรามเชย         อย่าละเลย  ทำรายงาน  การตำรา
            ทำการบ้าน  โครงงานส่ง  ให้ตรงวัน            อย่าลักลั่น  เกียจคร้านงาน  นะลูกหนา
            คนทางบ้าน  สุขสบาย  ทั้งยายตา               ขออำลา  จบจดหมาย  ให้โชคดี

    เขียนเล่น ๆ ไว้ประมาณปี 2546  ไม่ได้เจตนาให้ร้ายศิษย์คนใด ๆ ทั้งหมดทั้งสิ้น เพียงแต่แต่งไว้ให้ศิษย์ได้อ่าน เพื่อจะเกิดข้อคิดสะกิดใจ แม้แต่เพียงเล็กน้อยก็ดีใจที่สุดแล้วครับผม



                                                       ริดสีดวงกำเริบ

                              ส้วมขี้  ไม่มี  ประตู                     อดสู   วอฉอ  ของฉัน
                              ซ่องสุม  นักเลง  อันธพาล           สันดาน  ชั่วช้า  สามานย์
                              มือผลัก  ตีนถีบ  พังหมด              ขี้หด  ปวดขี้  ใครหาญ
                              คงเป็น  ริดสีดวง  โมงบาน           เพราะมาร  มันผลาญ  บีฑา
                              จะขี้  ก็ขี้  ไม่ได้                         หนักเบา  จะถ่าย  สาสา
                              นั่งยอง  กลัวใคร  โผล่มา             ไอหยา  นั่งโชว์  โมงดำ
                              เหอะเหอะ   ชาดเคอะ  เกินคาด      คนอาจ  แลเห็น  บักหำ
                              เตือนจิต  ศิษย์เอ๋ย  จงจำ              เลิกทำ  ระยำ  เถิดเอย

           แต่งเอาไว้เตือนจิตสะกิดใจ นักเรียนบางคนที่มีพฤติกรรมชอบทำลาย ทรัพย์สินโดยเฉพาะ
ประตูห้องน้ำ ห้องส้วม  แต่งประมาณ พ.ศ. 2548


                                                            เตือนสติ

                ฝ่ายหนึ่งนั้น  มันหลงใหล  ในรูปสวย            อีกหนึ่งชอบ  ความร่ำรวย  อีกฝ่ายไหม
                มีคำถาม ตอบฉับพลัน  ในทันใด                 ว่านี่ใช่  รักหรือเปล่า  เราชักงง
                หลงความดัง  นั่งกองเงิน  มากเกินนี่            มักมากมี  เสนอตัวมา  ถ้าประสงค์
                ล้วนโง่เขลา  เบาปัญญา  หนาอนงค์            เสร็จผลักไส  แถมไล่ส่ง  มากวิธี
                นี้คือกาม  กิจเอาเปรียบ  เทียบชั้นชั่ว            ใช้อุบาย  เกลือกกลั้วเผด็จ  เสร็จหลีกหนี
                เป็นข่าวดัง  ซุบซิบไป  ในธานี                    จบทุกที  ที่เลิกร้าง  ห่างไกลกัน
                ก็ความรัก  ชักจะเพี้ยน  เปลี่ยนจุดหมาย         ยอมมอบกาย  มอบใจก่อน  ไม่นอนฝัน
                ยังไม่แต่ง  ดันตะแบง  ผสมพันธุ์                  อายุสั้น  รักนิราศ  ขาดจริงใจ
                จึงควรมอง  ความรักใหม่  ไทยมิติ                มีคติ  เชื่อคำสอน  ก่อนดีไหม
                ถือจารีต  ประเพณี  ดีของไทย                     แล้วรักร้าย  จะมลาย  กลายเป็นดี
                เตือนให้คิด  ศิษย์สตรี  มีข้อคิด                ยับยั้งจิต  ก่อนจะสาย  ไร้ศักดิ์ศรี
                อย่าเริ่ดแร่ด  แก่แดดไป  มันไม่ดี             สุกก่อนห่าม  ขอร้องที  อย่าทำเลย

                              คันฉ่องส่องใจให้ใฝ่ดี "รักนวลสงวนตัว"  31  ต.ค.  2549


                                                              ลูกบ่าวพ่อ

                ไอบ่าวเหอ  หมึงอย่าเบล่อ  นะบ่าวพ่อ             อย่าบ้ายอ  ตั้งใจเพียร  เรียนศึกษา
                 เรื่องบ้าเมีย  พ่อพึ่งสอน  เบ่อแรกวา                อย่าแขบหา  เด็กร้ายร้าย  เป็นใภ้กู
                 เรียนมอหนึ่ง  ไม่ถึงสอง  ลองแลต๊ะ                อิ๊ไอย๊ะ  ละก๊ะบ๊ะ  หรอยจังหู
                 เด็กหวางนี้  ไอบ่าวเหอ  เบล่อพรั่งพรู              น่าอดสู  หากพ่อได้  ใภ้อ้อร้อ
                 ทำไอไหร  ก็ไม่เป็น สักยีบห้า                        แต่งแต่หน้า  ทาแป้งขาว  นะสาวหนอ
                 น่าเสียใจ  เวอรี่แซด  แรดงอกนอ                   ก็ยังขอ  เรียกหล่อนพี่  บัดสีครัน
                แม้รักใคร  สาวคนไหน  ให้พินิจ                     ใช้ความคิด  แล้วตริตรอง  มองสร้างสรรค์
                แค่เป็นเพื่อน  แค่เป็นแฟน กันและกัน               อย่าคิดสั้น  ขั้นได้เสีย  ผัวเมียเลย
                จากเรื่องแฟน  พ่อวกมา  หาเรื่องบ่าว              อย่าสร้างเรื่อง  ให้ชั่วฉาว  นะบ่าวเห้ย
                มีปัญหา  ให้โทรมา  ปรึกษาเลย                     ขอร้องเหวย   อย่าใครแหลง  แช่งแม่เรา
                อย่าสูบยา  ยิกยุงไล่  ในห้องน้ำ                     เสพยาบ้า   มึงอย่าทำ   จำว่าเขลา
                กินน้ำท่อม  แดกสุรา  จำว่าเมา                      แต่งผมเผ้า  อย่าได้หวี  จนชี้ชัน
                คล้ายขนควาย  ตรงใต้หาง  ข้างล่างตูด          มึงกลับบ้าน  จะพิสูจน์  ก็ไม่หวัน
               พ่อว่าเหมือน  ไอบ่าวเหอ  เออเหมือนครัน       เหมือนขนวาน  แม่ควายแก่  เหมือนแน่นอน
               เป็นจิ๊กโก๋  ไม่สร้างสรรค์  ชั้นสวะ                   ขอร้องต๊ะ  พ่อขอย้ำ  อย่าทำหอน
               ใส่เสื้อไว้  นอกกางเกง  นักเลงวอน                ตีนโคจร  จูบหน้ามึง  ซึ้งสักวัน
               ฝากอีเมล  ของพ่อไว้  ให้อ่านนะ                   อย่าลืมล่ะ  อย่าโดดเรียน  เพียรสร้างสรรค์
               จงเข้าเรียน  อย่าให้สาย  ในทุกวัน                 ส่งรายงาน  ทันเวลา  หนาคนดี
               ให้ประหยัด  การใช้จ่าย  อย่าให้เว่อร์              ขอเตือนเธอ  โทรศัพท์  อย่าโทรถี่
               ที่จำเป็น  นานค่อยโทร  ฮัลโหลที                  ถ้าให้ดี  โทรแบบหยอด   จะปลอดภัย
               พ่อแนบไฟล์  ภาพยายตา  มาให้แล้ว              ภาพชัดแจ๋ว  พริ้นออกมา  ไม่ว่าไหร
               ทำความดี  หนีความชั่ว  ตลอดไป                 นะลูกบ่าว สุดหัวใจ  ของพ่อเอย

                            จำไม่ได้ว่าแต่งไว้ปีไหน เอาว่าประมาณ  2548 นะครับ

                                                  ภาพจากอินเตอร์เน็ตไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในบทกลอน

                                                            ใครบ้า

                 คนเขาว่า  มันนั่นบ้า  มานานนัก                   คนจึงมัก  รู้กันว่า  มันบ้าหนอ
                 เห็นประจำ  เดินพึมพำ  ตัวมอซอ                   เดี๋ยวหัวร่อ  เดี๋ยวบ่นด่า   มันบ้าครัน
                 ธรรมดา  ปุถุชน  คนถ้วนทั่ว                          ต่างยิ้มหัว  มองคนบ้า  น่าขบขัน
                 ไม่มีใคร  รู้ภายใน  หัวใจมัน                          หมึงกูนั้น  ใครจะบ้า  กว่ากันเออ
                 มันถามเด็ก  ว่าไปไหน  กันไอบ่าว                 ไปแต่เช้า  กลับเสียเย็น  เห็นเสมอ
                 เด็กหัวเราะ  "ว่าคนบ้า  ท่าละเมอ                    เห็นอยู่เออ  ชุดนักเรียน  เพี้ยนไปใด"
                 ไปโรงเรียน  นะซิครับ  ขยับตอบ                     คนบ้าลอบ  มองหน้าซ้ำ  พูดคำใส
                 "แต่งนักเรียน  ไปโรงเรียน กูเข้าใจ"                  "ถามทำไม  กันอีกเล่า  ไม่เข้าที"
                 เด็กเดินหนี  ลีกายห่าง  ก้าวย่างผ่าน                 ไม่เข้าการ  คุยคนบ้า  น่าหน่ายหนี
                 ส่วนคนบ้า  ฉุกคิดได้  มาทันที                        เหมือนว่ามี  ความสิ่งใด  ในใจมัน
                 มันดุ่มเดิน  ไปหน้าบ้าน  ท่านให้เช่า                 แล้วด่าฉาว  ด่าเจ็บเจ็บ  เหน็บหนาวขวัญ
                 "กูเห็นเห็น  แต่งนักเรียน  มาทุกวัน                   ทำไมกัน  หมึงถึงไม่  ไปโรงเรียน
                 ยิ่งอีเวร  สามสี่ตัว  ยิ่งมั่วใหญ่                         แต่งนักเรียน  มาทำไม  ไม่อ่านเขียน
                 กูเห็นหมึง  แทบทุกวัน  มาวนเวียน                   จนบ้านเช่า  หญ้าราบเตียน  อีสันดาน"
                 เสียงเปิดปัง  ประตูอ้า  "ด่าใครว่ะ                     ไปเสียต๊ะ  ลุงมันบ้า  หาเรื่องหลาน
                 ลุงมันบ้า  แล้วยังมา  อันธพาล                        ด่าประจาน  คนดีได้  อย่างไรกัน
                 ผมไม่อยาก  ทำร้ายลุง  หรอกรู้ไหม                  ไปให้ไกล   ไปให้พ้น  หน้าบ้านฉัน
                 คนบ้าซึม   "กูไม่บ้า  ด่าดึงดัน                         คนบ้านั้น  คือพวกสู  รู้ไว้เลย
                 เป็นนักเรียน  เพี้ยนจริงหนา  บ้าเมียผัว               หลงเมามัว  มามั่วกาม  ทรามจริงเหวย
                 ใครคนดี  ใครคนบ้า  ตอบมาเลย                      พ่อแม่รู้  บ้างไหมเอย  ตอบกูที

          แต่งให้ข้อคิดสะกิดใจ สำหรับนักเรียนส่วนน้อย แต่งเครื่องแบบไปโรงเรียน แต่กลับไม่เข้าโรงเรียน  ไปมั่วสุมกันอยู่ที่บ้านเช่าหรือหอพัก  จนเลิกเรียน ก็เดินทางกลับบ้านเหมือนไปเรียนปกติ
น่าอนาถใจจริง ๆครับ


        เรื่องเศร้าของสาว ม.6 แท้งลูกตกเลือดอาการโคม่า

คลิกอ่านเรื่อง ม.6 แท้งลูกอาการโคม่า 

พฤติกรรม "ซื้อ"








          ซื้อซื้อซื้อ  ซื้อเข้าไป  ให้หายอยาก         ตาล่อมาก  อยากจะได้  หลายสีสันต์
          แบมือขอ   อนาถหนอ  ขอรายวัน           จิตใจมัน  ช่างมืดมัว  หัวเราะฮา
          จ่ายจ่ายจ่าย  จ่ายเข้าไป จ่ายให้หมด        แสนรันทด  คนหาเบี้ย  เพลียหนักหนา
          คนใจบาป  มาจับจ่าย  บายอุรา              ไม่เคยคิด  แม้สักครา  พ่อแม่มัน
          ว่าเหน็ดเหนื่อย เหงื่อไคล  ไหลท่วมโมง    พ่อโก้งโค้ง  ขีดหน้ายาง  ยังไร้หวัน
          บ้างตกใจ  อย่างสุดขีด  หวีดร้องพลัน       งูเห่ามัน  คอยชูคอ  รอหวัดดี
          บ้างเก็บยาง เดินสะดุด  ขี้ลุดลื่น              ล้มทั้งยืน น้ำยางอาบ ทราบเถอะศรี
          ล้างไม่ทัน ลืมตามัน  นั้นโศกี                 เดินตาพรี้  แสนขื่นขม  เดินงมเลย
          มานั่งให้  แม่ลอก  ขี้ยางให้                   เจ็บอีตาย  บ้างโกนหัว ก็เคยเหลย
          วิงวอนลูก  อย่าใช้จ่าย สบายเบย             พ่อภิเปรย  สั่งสอนเจ้า  คงเข้าใจ
                                                                 ครูรุณย์ มิ.ย 53

 
                      เหนื่อยลูกเหอ...ใช้จ่ายประหยัดกันสักหีดนะนุ้ย

                         ครั้งต่อไป...พฤติกรรมชอบความ "สวย" 




                             ครูดีในปัจจุบัน

         ครูดี  ใครวัด  ว่าดี                ครูสอน  อยู่ที่  ห่างไกล
         สพฐ.  มองเห็น ร่ำไร            วินิจฉัย  เพิ่มให้  ซีมา
         ข้าวแกง  คนกิน  รู้รส           เคี้ยวซด  จึงรู้  รสหนา
         คนกิน  คนวัด  แ่ม่ค้า            เข้าท่า  ถูกต้อง  เข้าที
         ครูสอน  ศิษย์จัด  วัดครู         พ่อแม่  ควรรู้  สักขี
         ครูสอน  ศิษย์ดี  ไม่ดี            วินิจฉัย  ถูกที่  ตรงคน
         ครูทำ  ผลงาน เต็มโต๊ะ         โส๊ะโส๊ะ  จัดเตรียม  โกลาหล
         คิดถึง  แต่เรื่อง  ของตน        ก้าวพ้น  อยู่เหนือ  ใครใคร
         ในใจ  คิดแต่  แข่งขัน           วันวัน  คุณครู   อยู่ไหน
         ครูทำ  มัวทำ  อะไร              ตั้งใจ  สอนหนู  ครูขา
         ยุคก่อน ไม่มี  แบบนี้             ครูดี  เด็กดี  จริงหนา
         ยุคนี้  ครูแย่  ลงนา               ศิษย์พา  ท้อแท้  แย่ลง
         ต่างครู  ต่างจิต  คิดไป          หัวใจ  ครูผิด  คิดหลง
         พ่อแม่  ผองศิษย์  คิดปลง      คุณครู  ยังหลง  ต่อไป
         กินข้าว  เจ้าไหน ไม่อร่อย      รสกร่อย เปลี่ยนร้าน ได้ไหม
         ครูสอน  เด็กกร่อย  อย่างไร    เปลี่ยนครู  ไม่ได้  ต้องทน
         ข้อคิด  นิดนิด  น่าคิด            ลองคิด  ไตร่ตรอง  เหตุผล
         ปรับปรุง  การสอน  ของตน     เพื่อศิษย์  ทุกคน  ชื่นใจ

                              ครูแคว็ด ๓ ธ.ค ๔๑


       แต่งเพื่อสะท้อนให้สังคมเห็นว่า ครูในสมัยปัจจุบันคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเอง เวลาส่วนใหญ่เสียไปกับเรื่องส่วนตน เอาเวลาไปทุ่มให้กับการทำผลงานทางวิชาการ โดยเอานักเรียนมาเป็นเครื่องมือ เป็นหนูทดลอง ทำให้นักเรียนเพิ่มภาระหน้าที่ในการตอบแบบสอบถามหรือทำแบบทดสอบที่ครูสร้างขึ้นมาเพื่อ ไปสนองต่อเนื้องานวิชาการของตนเอง นอกจากนั้นโรงเรียนยังสูญเสียงบประมาณไปอีกส่วนหนึ่ง  เพราะมีการใช้เครื่องพิมพ์ หมึกพิมพ์ กระดาษของโรงเรียนอันเป็นเบียดบัง วัสดุอุปกรณ์ที่มีเพื่อการจัดการเรียนการสอน มาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน 
        หรือคิดว่าครูที่ผ่านการทำผลงาน ค.ศ.3 ค.ศ.4 แล้วจะเก่งกล้า สามารถจริง ๆ ก็ดูจะ
ไม่จริงเสียแล้ว เพราะครูที่เราว่าเก่ง กลับไม่เก่งอย่างที่คิด สอนนักเรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง มีมากมาย อันอาจจะมาจากการจัดทำผลงานด้วยการว่าจ้างเขามาก็ไม่ทราบได้ 
        ถึงเวลาแล้วครับ ที่เราต้องมาทบทวนเรื่องครูดี ครูเก่ง กันเสียใหม่  อย่าอวดดี อย่าอวดเก่ง กันอย่างโง่เขลา ต่อไปอีกเลย  สิ่งที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าครูเราดีไม่ดี เก่งหรือไม่เก่ง
นั่นไงครับ "นักเรียน" เรียนซ้ำกันจำนวนมาก   ยกพวกตบตีกันอีกแล้ว  ทำลายทรัพย์สิน
ราชการ  พูดจาด้วยคำหยาบคาย  หนีเรียน  ยาเสพติด  ชู้สาว ที่สำคัญผลการเรียนตกต่ำ นี่แหละครับ ตัวบ่งชี้ตัวจริง อย่าหลอกตัวเองต่อไปอีกเลย ครับ


                                      หัวใจขึ้นเหนา
                   งามงอน นอนตูด ชี้ชัน             บ้างหัน ตูดไป ถนน
                   บ้างนอน หงายท้อง ก้องกรน     บางคน นอนอ้า น่าอาย
                   นวลนาง คำนึง ถึงเถิด             อย่าเอิด ทำเก่ง โฉมฉาย
                   หญิงไทย สมัยนี้ มากมาย         หญิงร้าย ไม่ห่วง หวงนวล
                   ไม่มี จรรยา มารยาท               นวยนาด เดินเหิน ผิดผวน
                   เป็นทอม เป็นดี้ ลำดวน            ชี้ชวน เที่ยวเตร่ เฮฮา
                   ปล่อยตัว ปล่อยใจ ใหลหลง      อนงค์ ไม่คิด กังขา
                   วันไหน พลาดพลั้ง ขึ้นมา        โศกา ใครเล่า เห็นใจ
                   คิดเอง ทำเอง ทั้งนั้น              วันคืน  ผ่านผัน เคลื่อนไหว
                   บังอร ไม่คิด อะไร                  สุขไป แค่เพียง วันวัน
                   ดีใจ ให้ชาย รับส่ง                  ดังโด่ง ไร้ทุกข์ สุขสรรค์
                   พ่อแม่ ไม่รู้ เท่าทัน                 ลูกฉัน มีคู่ ชู้ชม
                  วันเสาร์ อาทิตย์ ไม่กลับ            ยุ่งกับ รายงาน สะสม
                  เจ้าหล่อน โกหก พกลม            ขำคม อยู่คู่ ดวงแด
                 ซ้อนท้าย มอไซด์ คนรัก             งามพักตร์ ไม่เคย แยแส
                 สายตา เพ่งมอง มาแล               คิดแต่ ใฝ่คว้า บ้าชาย
                 โน้มตัว โอบกอด แฟนขับ           โทษครับ กางเกง ในฉาย
                 ขอบขาด เว้าแหว่ง ลายลาย        ขึ้นเหนา มากมาย มอซอ
                 คงเหมือน ใจนาง ล่ะซี               ทุกห้อง หมองศรี ซิหนอ
                 มืดมน จรรยา ไม่พอ                  บ้าบอ แก่แดด เกินวัย  
                 มาเรียน ควรเรียน ศึกษา             ภายหน้า อนาคต สดใส
                 ขี้คร้าน การเรียน เปลี่ยนใจ          ขยัน แต่ใน คาวกาม
                 ใครเป็น เช่นว่า ขอโทษ              อย่าโกรธ ครูไม่ ใช่หยาม
                  กลับตัว กลับใจ นงราม              ลูกศิษย์ ทุกนาม โชคดี 
                                                             ครูรุณย์ แต่งประมาณสิงหาคม ปี 51                       

                 
 
การ์ตูนครูกาด





                                    อ่านไว้ได้สติ

     ก็คิดได้  เพียงเท่านี้  สตรีเอ๋ย                  ไม่น่าเลย  เรียนมากหนอ  ปวชสาม
     พฤติกรรม  ความนึกคิด  จิตลามปาม          คิดแต่กาม  ตัณหาครอบ  รอบตัวเธอ
     สิ่งที่ดี  มีคุณค่า  มหาศาล                      คือชีวิต  ที่เบิกบาน  สุขเสมอ
     ควรรู้ทัน กิเลสกรรม  ยามพบเจอ              จิตไม่เบลอ  กำจัดมัน ให้บรรลัย
     คนรักหนู  รู้หรือยัง  คอยสั่งสอน               รักบังอร  อย่างมากมาย  ใช่ใครไหน
     ใช่คนรัก  หรือพี่หลวง   หรือใช่ใคร            อยู่ใกล้ ๆ  พ่อแม่หนู  รู้เสียที
      อย่าเลอะเทอะ  ให้เปรอะเปื้อน  คาวกามา   อย่าสิ้นท่า  ตายง่าย ๆ  ไร้ศักดิ์ศรี
      แม้เงื้อไม้  เราทำท่า  จะไล่ตี                  ใส่เกียร์ผี   วิ่งผวา  คือหมามัน
     มันกลัวเจ็บ  มันกลัวตาย หลีกไว้ก่อน         แล้วเจ้าหล่อน  ถูกผีเข้า  เจ้าเสียขวัญ
     ลืมนึกคิด  เข่นชีวิต  ปลิดชีวัน                  วอนศิษย์ฉัน  อย่ามักง่าย  กับชายใด
     กับคนรัก หรือชายใด  ห้ามให้ขาด             เอกราช  รักษามั่น  อย่าหวั่นไหว
     ของ ๆ ฉัน  ไม่มีวัน  เสียให้ใคร                กว่าทำงาน  และดูใจ  กันดิบดี
     อย่าปล่อยตัว  มั่วกำหนัด  รุมมัดจิต           พาชีวิต  จมตัณหา  หมดราศี
     การเรียนล้ม  ชีวิตจม  บ่วงราคี                 ศิษย์ทุกคน  ขออย่ามี  กัยร้ายเลย              
                                                             ครูรุณย์แต่งจำไม่ได้น่าจะเป็นปี 50

       แต่งไว้เตือนจิตเตือนใจบรรดาศิษย์ทั้งหลาย อย่าได้ประพฤติปฏิบัติตาม สาวปวช.ที่
เผลอเรอปล่อยให้ตั้งครรภ์ หาทางออกไม่ได้ฆ่าตัวตาย คิดแล้วน่าสงสารหล่อนเป็นอย่างยิ่ง
ขอให้ดวงวิญญาณสู่สุคติด้วยเทอญ

-->
                                            หนังตลุงของไทย
หนังตลุง  ครั้งกรุงเก่า   เราเริ่มมี                 ศิลปิน  แขนงนี้  มีแพร่หลาย
 ทั้งงานแต่ง  ทั้งงานบวช  สวดแม่ยาย         งานแม่หม้าย  แต่งงานใหม่  ยังได้ดู
แต่ก่อนเก่า  เขาชอบเล่น  รามเกียรติ์           ครั้นต่อมา  ได้ปรับเปลี่ยน  ไปนะหนู
สนองตอบ   ตามความชอบ ของคนดู         เป็นที่รู้   ศิลป์ไทยเรา   เขาดีครัน
หน้าจอเหลี่ยม  ซึ่งเต็มเปี่ยม  ด้วยความรู้     ลองตรองดู  วิชาไหน  ให้เลือกสรร
สอนคณิต  ให้คิดเลข   เอกอนันต์                เท่งนุ้ยนั้น  มาถกเถียง  เรียงเลขไทย
สอนการงาน  อาชีพให้  ได้รู้ทั่ว                   สอนดีชั่ว  ศิลธรรม   นำแสงใส
ออกกำลัง   ทางร่างกาย  ได้พักใจ                พลานามัย  สุขศึกษา  วิชาเรียน
สอนภาษา  ทั้งไทยเทศ  ทั่วเขตโลก              กวีศิลป์  ทั้งสุขโศก  สอนอ่านเขียน
กรรมพันธุ์   ของพ่อโท่ง  เท่งลอกเลียน       ไม่ผิดเพี้ยน   ดีเอ็นเอ  เท่เท่งเป็น
คือคำสอน  เกี่ยวกับวิทย์  คงคิดได้                อีกมากมาย หลายวิชา  น่าจะเห็น
ดูหนังลุง   มุ่งนำมา  หาประเด็น                    หนังเขาเล่น  เราบังเกิด  เลิศปัญญา
ขอร้องว่า  อย่าได้ลืม  หนังตลุง                     ช่วยสืบทอด  ให้เรืองรุ่ง  ต่อไปหนา
มัวอินเทรน  เกาหลีเขา  เมาดารา                  อย่าลืมค่า   และสูญสิ้น  ศิลป์ไทยเอย

                                                                     ครูรุณย์แต่งเอาไว้ในปี 52
-----------------------------------------------------------------------------------------------
                                         ผิดอะไรใยต้องฆ่า
                        ฉันมีลูก มากกว่าห้า       ยังอุตส่าห์  เลี้ยงลูกไหว
                       ฉันไม่เคย  คิดทำลาย     เลี้ยงจนใหญ่  รอดชีวา
                       พวกท่านหรือ คือมนุษย์   แต่ใจทรุด ต่ำหนักหนา
                       อนิจัง มนุษย์ มะนา         ใจต่ำกว่า หมาอย่่างตู

                                                         ครูรุณย์แต่งไว้ปี 53
 
             รำลึกนึกถึงคำอวยพรคุณครูวรนารีเฉลิมของเรา ที่แต่งไว้ในปี 2541
-->
              พรปีใหม่ 2542  ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2541 พอดีมีอารมณ์เขียนกลอน จึงคิดว่าจะเขียนอะไรดี  เลยมีความคิดว่า น่าจะเขียนคำกลอนอวยพรคุณครูและบุคลากรวรนารีเฉลิม ในขณะนั้น แต่คิดว่าน่าจะมีบุคลากรคนใดคนหนึ่งอาจจะหลุดไปจากคำกลอนนี้ ก็เป็นได้  แต่เท่าที่กลับมาพินิจพิจารณาแล้ว  ยังคิดไม่ออกว่าตกหล่นท่านใดไปบ้าง  ถ้าหากมีก็ต้องขอกราบขออภัยไว้ด้วยนะครับ
             บังเอิญได้เจอกลอนนี้ในแผ่นเอกสารเล็ก ๆ ในวันที่
ตุลาคม  2552  ซึ่งพอได้อ่านอย่างพินิจพิจารณาแล้ว  ก็เห็นว่า คำกลอนอวยพรปีใหม่ 2542  นี้ น่าจะให้พวกเราชาววรนารีเฉลิม ได้หวนระลึกถึงนึกเพื่อนหรือพี่ ๆ น้อง ๆ ผู้ร่วมงานของพวกเรา ที่บางท่านได้ลาลับไปจากโลกนี้แล้ว   จึงขออนุญาตนำคำกลอนนี้มาเผยแพร่อีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. 2552  ครับ

                                                             พรปีใหม่
2542
                ขอสุขดี  ศรีสวัสดิ์  พิพัฒน์ผล                          ถ้วนทุกคน  ทุกหมวดฝ่าย  ให้สุขขี
ท่านผอ.โสภณ   ผลงานดี                                                 ท่านรวี   เร่งรัด  พัฒนา
ท่านอำพล  สุชาติ  ทัศนีย์ ขอมีโชค                                อย่าทุกข์โศก   เพ็ญศรี  สุขหรรษา
ลาภมากมี   นิวิต   และศักดา                                           จารย์สุภาพ(ต)  เงินตรา  ทรัพย์อนันต์
จารย์สำรวย  อีกด้วย  ให้รวยทรัพย์                                 จารย์มานพ   รอรับสิน   สมดังฝัน
จารย์ประสิทธิ์   มีสุข  ทุกคืนวัน                                     จารย์ชาญชัย   เหมือนกัน   อย่าโรยรา
จารย์นิตยา   ประยุทธ์  ให้ผุดโชค                                  อย่าเศร้าโศก   สุขสำราญ   จารย์วาสนา
สุขสมบูรณ์   เถิดท่าน  จารย์วรรณา                               ชนิตา   ให้สนุก    สุขกับงาน
จารย์สุภาพ   ณ พิบูลย์   จงพูนผล                                  จารย์เพียงใจ   ขอเทพดล   สุขแหววหวาน
จารย์จีระพัฒน์   ปิยา  จงชื่นบาน                                    จารย์สำราญ   ขอพุงน้อย   ลดถอยลง
จารย์ปรีชา    สาลี่  ขอมีสุข                                              จารย์ธวัช   ปราศจากทุกข์    สมประสงค์
สุขภาพ    ดีคืนวัน   จารย์อนงค์                                      รวมทั้งครู   อนงค์   ศิริครินทร์
จารย์เจริญ  ขอให้เจริญ  เจริญดี                                     สุพรรณี   เสริมศักดิ์    มากทรัยพ์สิน
สองสมพงค์   ขอเก่งกาจ  ปราศราคิน                            อรพินท์   สุขนานนาน  จารย์หวานตา

สืบสกุล  มัลลิกา  อย่าเจ็บไข้                                            ครูละม้าย  มีบุตรดัง   หวังปรารถนา
ให้คล่องแคล่ว  การงาน   จารย์โสภา                             ครูวันชัย   ปรีดา อย่ามีทุกข์   สุขใจกาย
ครูวันชัย(ขาว)   ให้ได้เมีย  เสียทีเถิด                             ครูนิโรจน์   บังเกิดสิน   สมมุ่งหมาย
วีระวัฒน์  ปราศจาก  อันตราย                                         ชุมพล   มากมาย  ทรัพย์นานา
ให้โชคดี   ศิวันเนาว์  สุมาลี                                             ครูมนตรี  พิมล  สมมุ่งมาด  ปรารถนา
ให้ดีเด่น   สมความฝัน  สุนันทา                                     กุลนาถ  สุพัตรา    สวยกายใจ
ครูสายฝน   ลัดดาวัลย์  จารย์ไพบูลย์
                              ขอความสุข   ได้พอกพูน   คุณครูพิสมัย
วลีรัตน์   พัฒนา    ให้ก้าวไกล                                         กรประภา  สมมุ่งหมาย   ดั่งใจจินต์
ครูอำไพ   อรณี   สุมนา  มารศรี                                     ให้มากมี    ความสุขสรรค์   ฝันถวิล
ครูเครือวัลย์   กัลยา   ไร้ราคิน                                         มากทรัพย์สิน   ครูเปรมหมวย  รวยเงินทอง
คุณครูไหม  รวมครูไฝ   ครูวิจิตร                                     แม้ว่าคิด      ปรารถนาใด   ได้สนอง
ครูสุวรรณ   ขอเกียรติ์เฟื่อง   ทรัพย์เนืองนอง              ให้เทพจอง    ได้คุ้มกัน   จารย์วรรณา(ก)
ครูสายหยุด  อมรรัตน์   อย่าขัดสน                                 ครูถนอม    ให้มากล้น  วาสนา
อยู่กินดี     เถิดนะจ๊ะ   ครูชญา                                        ศรีสุดา   อย่าได้ขลุก   ทุกข์ใจเลย
อาจารย์นิตย์   อย่าได้นิด   ให้โชคมาก                          พรหลายหลาก   ครูเอื้อมพร   สุขเสวย
เรวดี    ธิดารัตน์ให้        ใจเสบย                                    สุพัฒน์เคย   เคยครองสุข   สุขทวี
จิระพร  อรุณวรรณ   ท่านครองสุข                                ให้ไร้ทุกข์   ครูพวงเพ็ญ  เป็นสุขศรี
ครูฉลอง   ครูผ่องสุข    ขอสุขดี                                       กิตตินันท์    อย่าได้มี   ซึ่งทุกข์ภัย
กาญจนา   ภาวนา    ให้สมหวัง                                      จุไรรัตน์    ครูเรียงยัง   ปลอดโปร่งใส
เบญจวรรณ   ครูสุภร   ไม่ร้อนใจ                                   ครูถนอม(ร)   สุขมีให้   ทั่วทั่วกัน
ครูประภักดิ์   ครูเสงี่ยม   เปี่ยมสุขล้น                            สุชาชล    ให้ไร้ทุกข์   เปี่ยมสุขสรรค์
สุวินี    ชื่นสราญ   ชั่วกาลกัลป์                                       สมรนั้น  ขออย่าโศก   ให้โชคดี
รวินันท์   เฉลิมศรี   ให้ดีคุ้ม                                            อรวิภา   ขอเทพคุ้ม   ให้สุขศรี
ครูสุพิศ   ครูถมยา   วิภาสินี                                             ขอจงมี   มากรายรับ   นับอนันต์
เนตรนภา   ครูสมทรง   จงสมหวัง                                ครูวันเพ็ญ   ขนบยัง   แสนสุขสรรค์
ธีระพงศ์     เป็นคนเก่ง   ไปนิรันดร์                             ศุภลักษณ์    ทุกวันคืน   ชื่นจิตตน
ครูศรียา   ครูรัตนา  มัลลิกา                                              นิตยา   จงสุขศรี  ทวีผล
ครูพิมพรรณ  อรวรรณ  เทพบรรดล                               ให้สุขล้น  รัตนาภรณ์   เทพประทาน
นิรมล   ครูพรรณี    เสาวพัฒน์                                       อย่าติดขัด    ในลาภยศ   รับหวานหวาน
นันทพร    ให้ดวงดี   ฉวีวรรณ                                       ครูวิชาญ  วิไลลักษณ์   เทพรักษา
ครูสว่าง   ขอให้ใส   ใจหวางแหวว                                ครูเตือนใจ   เฟื่องแก้วสมคิด  จิตใฝ่หา
ครูเรืองรัตน์   ยุวพันธ์    จารย์นภา                                 พัทธมน  สุดา  อย่าได้ขลุก   ทุกข์ใดใด
นวลอนงค์   ครูมนูญ  ให้พูนเพิ่ม                                   เงินทองเติม  ครูวารินทร์   สุขสดใส
ราชศักดิ์   สุวรรณา   พาสุขใจ                                         ครูประไพ   ประพจน์ก็    ขอสมจินต์
รัชนี   นิรมล  อนุรัตน์                                                      ครูสุนี   นัดกันสุข   สมถวิล
ทั้งคนเก่ง   คุณครูพล  ผิวสีนิล                                        ขอให้สิน   มีหลายหลาก    ให้มากมี
ครูสุภร   ขอได้พร   เทพเทวา                                          ช่วยรักษา   ให้สุขสม   แสนสุขขี
ครูประไพ(ก)  ครูวิมล   สุมาลี                                         จงอยู่ดี   มีความสุข   นะคุณครู
ครูธัญญะ   ขอให้เบน   เป็นฝ่ายรัฐ(บาล)                     ขออย่าขัด   ให้เห็นด้วย   จะสวยหรู
ทัศพร   คัทยวรรณ  ขวัญพธู                                            ขอจงอยู่   อย่างร่มเย็น   เป็นสุขใจ
ครูรัตนา  ครูวานี   ศรีอาภรณ์                                         วิวราวรณ์   ทัศนียา   พาสุกใส
ครูพะยอม   อย่าได้ยอม   แพ้โพยภัย                             ขอก้าวไป  อย่างราบรื่น  ชื่นอารมณ์
ครูอัมพร   พรจงมี   ดีดีนะ                                              ครูสุเพ็ญ   ขอพรพระ(รัตน์)  คอยอุ้มสม
ทั้งคุณครู   รามฤดี   ที่ชื่นชม                                           คนนิยม   มีเมตตา   พระคุ้มกัน
ครูชิดคลอ   ขอชิดสุข  ทุกข์ห่างหาย                              ครูสมชาย   สัมฤทธิ์ผล   ตนใฝ่ฝัน
วราภรณ์   เสาวนิต   สุขติดพัน                                       ครูมณฑา   สายฝนนั้น   ขอจำเริญ
ครูวันศิน   อย่าได้สิ้น   ความสมหวัง                            นภาพร    ขอให้ยัง   คำสรรเสริญ
สุชะดา   ให้สุขสรรค์   คืนวันเพลิน                               ขยันเกิน   ครูไชยพร   พรทวี
กาญจนา  ครูมาใหม่  ให้สมหมาย                                  จงขอให้   ได้บุตรดั่ง   หวังสุขศรี
รัชนีกร   ให้ได้พร   มีสุขดี                                              ขออย่ามี   ความทุกข์รุก  บุกโรมรัน
เปรม พยบ  เทพอพยพ  ความสุขให้                              อรทัย  น้อยอารมณ์   ให้สมฝัน
ลัพท์ขอให้   ความทุกข์ลับ  ในฉับพลัน                        ทั้งชีพผ่อง   ขอจงมั่น   ในความดี
จิระพงษ์   ช่วงท่วงท่า  สง่างาม                                      รวมทั้งนอม  ขอลามสุข   ทุกข์แหนงหนี
ปิยะพงศ์     นายมังโสด   โปรดจงมี                             โชคโชคทวี    คุณมารุต   สุดดีใจ
จเรอุทัย  ขออย่าได้   ใจเรรวน                                      ให้สุขล้วน  จงบังเกิด   สุขสดใส
คุณละม้าย   มีความสุข  ตลอดไป                                 ขออำลา   คราไคล  ไปก่อนเอย
                                                                                   ครูการุณย์  สุวรรณรักษา
                                                                                   แต่งไว้เมื่อ 
29   ธันวาคม  2541





-->
                     เซ่นพิษรักวัยเรียน ฆ่าแฟนสาวราชภัฏ แล้วผูกคอตายตาม

      
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว (หนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์  24  มิถุนายน  2552)

คดีนี้พนักงานสอบสวนปิดคดีแล้ว เนื่องจากคนร้ายผูกคอตายเสียชีวิตหลังทำผิด สาเหตุเรื่องนี้น่าจะมาจากการที่ฝ่ายชายเครียด เพราะถูกกีดกันรัก เลยฆ่าแฟนสาวแล้วหนีไปฆ่าตัวตายในภายหลัง"

คือคำกล่าวของพ.ต.อ.ศิรินทร์ จันทวานิช รอง ผบก.ภ.จว.อุตร ดิตถ์ หลังปิดคดีคนร้ายสังหาร น.ส.พรวดี ตายัน อายุ 20 ปี นักศึกษาสาว มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ สิ้นใจตาย

พิษรักวัยเรียนคร่าชีวิตคนอีกจนได้!!

นายนิกร หรือ "เบนซ์" เทียรทอง คือ คนร้ายที่ลงมือฆ่าน.ส.พรวดี เพราะถูกกีดกันเรื่องความรัก ประกอบกับมีปัญหาหึงหวงแบบวัยรุ่น เมื่อหาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจฆ่าน.ส.พรวดีจนสิ้นใจ ก่อนที่ตัวเองจะหนีไปผูกคอตายตามไปอีกราย
สังเวยรักขม 2 ศพ!!
ย้อนไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนบ่ายวันที่ 18 มิ.ย. มีคนไปพบศพน.ส.พรวดี นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ถูกฆ่าทิ้งศพหมกท้องนาใกล้ถนนทางเข้าหมู่บ้านระหว่างบ้านน้ำริด หมู่ 1 ต.น้ำริด กับหมู่บ้านดงตะขบ หมู่ 8 ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ ในสภาพน่าสลด
หลังรับแจ้งพ.ต.อ.ศิรินทร์ จันทวานิช รอง ผบก.ภ. จว.อุตรดิตถ์ พ.ต.อ.นิคม เอี่ยมสำอางค์ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.อุตรดิตถ์ พ.ต.ท.เด่น ทองศรีจันทร์ รอง ผกก.ปป. พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ทองสุข รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.จาตุรงค์ ปัจฉิม สว.สส. และร.ต.อ.ศักดา จันจี สารวัตรเวรฯ รีบเดินทางมาตรวจสอบทันที พร้อมประสานน.พ.ยงเกียรติ ธนเจริญพานิช แพทย์เวรโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และพ.ต.ท.สมเกียรติ เสวกมหารี หน.วท. จ.อุตรดิตถ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพเหยื่อสาวรายนี้



"พรวดี" ถูกฆ่าทั้งชุดนักศึกษา!!?

สภาพศพเหยื่อสาว นอนคว่ำหน้าจมอยู่ในร่องน้ำท้องนา ขาข้างซ้ายถูกลำตัวทับอยู่ ส่วนขาข้างขวาเหยียดตรง สวมชุดนักศึกษามีเข็มมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ติดอยู่ที่อกเสื้อ ที่ปากมีเศษดินโคลนอุดอยู่จำนวนมาก มีบาดแผลที่หน้าผากซ้าย คิ้วซ้าย หัวคิ้วขวา และใต้คาง ตามร่างกายมีรอยขูดไปกับถนน จนฟันหัก 1 ซี่ ลำคอมีรอยแดงคล้ำเหมือนถูกฆ่ารัดคอแล้วจับกดน้ำ ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง
ตำรวจจึงลงบันทึกไว้
หลังจัดการกับศพเรียบร้อย เจ้าหน้าที่กระจายกำลังตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบหลักฐานสำคัญหลายอย่างตกอยู่ ไม่ว่าจะเป็นขวดโค้ก รองเท้าหุ้มส้นสีน้ำตาลของผู้ชาย และกระเป๋าสะพายของเหยื่อ ตกกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ ยังพบรอยรถจักร ยานยนต์ครูดไปกับถนนเป็นทางยาว
รถมอเตอร์ไซค์และสร้อยคอทองคำของน.ส.พรวดีก็หายไปด้วย

คดีนี้หากดูเผินๆ จะเหมือนการฆ่าชิงทรัพย์ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานแวดล้อมแล้ว จึงตัดประเด็นอื่นทิ้งไปทันที เหลือไว้เพียงปมชู้สาวเรื่องเดียวเท่านั้น ซึ่งพยานมั่นใจว่างานนี้ต้องเป็นฝีมือนายนิกร แฟนหนุ่มของน.ส.พรวดีแน่ๆ เพราะทั้งคู่มีปัญหากันมานาน


พยานย้อนปูมหลังให้ฟังว่า "พรวดี" กับ นายนิกร คบกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.แพร่ เพราะเป็นคนหมู่บ้านใกล้เคียงกันในต.สบสาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ แต่ต่อมาน.ส.พรวดีได้มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นายนิกรจึงตามมาด้วย แต่ถูกพ่อแม่ฝ่ายหญิงกีดกัน เนื่องจากเห็นว่า "พรวดี" ยังเรียนไม่จบ และนายนิกรก็ยังไม่มีงานทำ เมื่อรักไม่สมหวังทั้งคู่จึงทะเลาะกันบ่อยครั้ง
ที่สำคัญ "พร วดี" เคยโดน แฟนหนุ่มขู่ฆ่ามาแล้ว!!?
พยานปากเอกให้การอีกว่า ก่อนหน้านี้ 2 วัน เห็นผู้ตายอยู่กับนายนิกรที่หอพักตลอดวัน ก่อนที่น.ส.พรวดี จะหายตัวไปพร้อมกับแฟนหนุ่ม และกลายเป็นศพในวันรุ่งขึ้น ซึ่งหลังเกิดเหตุนายนิกรก็หายตัวไปด้วย เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบการใช้งานโทรศัพท์ของนายนิกร พบว่ามีสัญญาณอยู่ในย่านที่เกิดเหตุก่อนที่จะเจอศพ และที่สำคัญ ตำรวจยังพบโทรศัพท์มือถือของนายนิกรที่ทำหล่นไว้ใกล้ที่เกิดเหตุด้วย
ดังนั้น คนร้ายจะเป็นใครไม่ได้นอกจากนายนิกรผู้นี้

เมื่อหลักฐานชัดแจ้งขนาดนี้ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับทันที

ชุดสืบสวนสภ.เมืองอุตรดิตถ์ สืบรู้มาว่านายนิกรหนีกลับบ้านที่จ.แพร่ จึงส่งกำลังไล่ล่า แต่ทว่าก่อนจะถึงตัวนายนิกร ตำรวจอุตรดิตถ์ก็ได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.ธนยินทร์ เทพรักษา ผกก.สภ.สูงเม่น จ.แพร่ ว่า ตอนเย็นวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายนิกรได้ตัดสินใจผูกคอตายหนีความผิดไปแล้ว โดยยึดเอาขื่อใต้ถุนบ้านพักในสวนลำไย หมู่ 2 ต.บ้านปง อ.สูงเม่น จ.แพร่ เป็นสุสาน
ตายตามแฟนสาวเป็นศพที่สอง

ถึงแม้คนร้ายจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยที่ไม่ทิ้งอะไรไว้ แต่สาเหตุเรื่องนี้ก็เป็นที่เฉลย เพราะคนใกล้ตัวทั้งคู่รู้ว่าปัญหามาจากเรื่องความรักที่ไม่สมหวังของฝ่ายชาย ที่อ้างว่าถูกพ่อแม่ฝ่ายหญิงกีดกันมาตลอด
ที่ผ่านมา นายนิกรเคยบอกกับทุกคนว่ารักน.ส.พรวดีมาก หากตัวเองไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้ และยิ่งในตอนหลัง "พรวดี" เริ่มทำตัวห่างเหินเพราะต้องมาเรียนที่อุตรดิตถ์ เลยทำให้นายนิกรไม่พอใจแอบมาหาและชวนทะเลาะกันบ่อยๆ จนฝ่ายหญิงเริ่มเบื่อหน่ายและพยายามหลบหน้าฝ่ายชาย

แต่หนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น  สุดท้ายจึงต้องพบกับความตาย!!

                                             ใฝ่คว้าหาความตาย
                                               -----------------------
                                         
-->
         มันคือ  ต้นเหตุ  ความตาย        ภัย ร้าย ที่หมาย  กรายกล้ำ      
       เพราะ เรื่อง ความรัก ชักนำ       ถลำ  สู่อ้อม  หัวใจ       
       ตอน เรียน  มอศอ  มัธยม         มีคู่   ชู้ชม   สดใส
      
มีแฟน  ระรื่น  ชื่น ใจ                เพื่อน ๆ  ทั่วไป  แอบมอง
      
ต่างรู้   คู่นี้   คู่รัก                    เหมือนนัก  วอฉอ  ทั้งผอง
       
ใฝ่คว้า  หารัก  มา ครอง           บ้าง สุข  บ้างหมอง  โศกา      
       ผู้ชาย  ในฝัน  วัยรุ่น                 ว้าวุ่น    เลือกแบบ  ไหนหนา
      
เน้นเพียง   รูปร่าง หน้าตา          กิริยา   น้ำใจ   ไม่ดู      
        พอโต  เรียนสูง  ขึ้นมา             มาคิด   อีกครา   อดสู       
        ไม่ น่า   เลือกมัน  เลยตู           โฉมตรู  คิดตัด   เยื่อใย      
        ตัด น้ำ    ตัดไฟ   ไม่ว่า            ตัดรัก  สิเน่หา  ผลักไส      
       ไม่ ง่าย  ดั่งตัด   น้ำไฟ              ผู้ชาย  โกรธแค้น  ชิงชัง      
       จาก รัก  กลับมา  อาฆาต          พยาบาท   ไม่ยอม  สิ้นหวัง      
       เลิก กู   สูตาย   มรณัง              อย่าหวัง   ชายอื่น   ได้ครอง
       
รับรู้  เรื่องเล่า   ข่าวนี้                เตือนศิษย์  สตรี    ทั้งผอง      
       ก่อน รัก  นักเรียน   ตรึกตรอง      อยากลอง  อย่าลอง   อดทน      
      ชีวิต   จะไม่   ผิดพลาด             จะไม่   อนาถ   เกิดผล      
      ตั้ง หน้า   พากเพียร  เรียนจน      ส่งผล  ให้มี   การงาน      
      เมื่อ มี    หน้าที่   งานทำ           คมขำ   มีแฟน  แสนหวาน      
      สมรส   แต่งงาน  แต่งการ         ให้สุข  สำราญ  ทุกคน
                                                 ครูรุณย์แต่งปี 52


                           
                                       พวกเรา ว.ฉ.ค่าๆๆๆๆ  รักนวลสงวนตัวค่าๆๆๆๆๆๆๆ
ขอให้ดวงวิญญาณของทั้งสองสู่สุขคตินะครับ


                                                                                         ตบเพื่อชาติ

 
-->
                                  ตบเพื่อชาติ น่ายินดี                            ตบแย่ง สามี เสียหาย
                                 เสียชื่อ สกุล มากมาย                         แย่งชาย ถึงขั้น ตบตี
                                 นักเรียน นิสิต ศึกษา                          ชอบอวด ศักดา บัดสี
                                แย่งกิ๊ก หยิกตบ ทุบตี                         ราวี ยกพวก ตุะลุมบอน
                                เหมือนหม-า ร่-านสวาท                   จึงขาด ยั้งคิด จิตสอน
                                ตบเพื่อ แย่งชู้ คู่นอน                          ครูวอน ให้ศิษย์ คิดตรอง

                                                                                               ครูรุณย์แต่งปี 53 



อ่านกันเลยกลอนเพราะจากสุนทรภู่ เรื่องการสอนหญิง สาวๆสมัยนี้อ่านกันบ้างนะ

                    
.....(อย่า ชิงสุกก่อนห่าม)

จงรักนวลสงวนนาม ห้ามใจไว้          อย่าหลงใหลจำ คำที่พร่ำสอน
คิดถึงหน้าบิดาและมารดร               อย่ารีบร้อนเร็วนักมักไม่ดี
เมื่อสุกงอม หอมหวานจึงควรหล่น    อยู่กับต้น อย่าให้พรากไปจากที่
อย่าชิงสุกก่อนห่ามไม่งามดี            เมื่อบุญมีคงจะมาอย่าปรารมภ์
อย่าคิดเลย คู่เชยคงหาได้              อุตส่าห์ทำ ลำไพ่เก็บประสม
อย่าเกียจคร้านงานสตรีจงนิยม         จะอุดม สินทรัพย์ไม่อับจน...

                          


                .....(ความ กตัญญูกตเวที)
มีสลึงพึงประจบ ให้ครบบาท          อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
จงมักน้อยกิน น้อยค่อยบรรจง        อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน
ไม่ควรซื้อก็ อย่าไปพิไรซื้อ           ให้เป็นมื้อเป็นคราวทั้งคาวหวาน
เมื่อพ่อแม่ แก่เฒ่าชรากาล           จงเลี้ยงท่านอย่าให้อดระทดใจ
ด้วยชนกชนนี นั้นมีคุณ               ได้การุณเลี้ยงรักษามาจนใหญ่
อุ้มอุทรป้อน ข้าวเป็นเท่าไร          หมายจะได้พึ่งพาธิดาดวง
ถ้าเราดีมี จิตคิดอุปถัมภ์              กุศลล้ำเลิศเท่าภูเขาหลวง
จะปรากฏยศ ยิ่งสิ่งทั้งปวง           กว่าจะล่วงลุถึงซึ่งพิมาน
เทพไทในห้อง สิบหกชั้น            จะชวนกันสรรเสริญเจริญสาร
ว่าสตรีนี้ เป็นยอดยุพาพาล          ได้เลี้ยงท่านชนกชนนี....



                            .....(การพูดจา)

จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น                  อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู
ไม่ควรพูด อื้ออึงขึ้นมึงกู                     คนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจ
แม้จะเรียน วิชาทางค้าขาย                 อย่าปากร้าย พูดจาอัชฌาสัย
จึงซื้อง่ายขายดีมีกำไร                       ด้วยเขาไม่เคืองจิตระอิดระอา
เป็นมนุษย์ สุดนิยมเพียงลมปาก           จะได้ยากโหย หิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา                   จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
ถึงชายใดเขา พอใจมาพูดเกี้ยว           อย่าโกรธ เกรี้ยวโกรธาว่าหยาบหยาม
เมื่อไม่ชอบก็ อย่าตอบเนื้อความตาม    มันจะลามเล่นเลยเหมือนเคยเป็น....


                          .....(กิริยามารยาท)

เมื่อจะจรนอนเดินดำเนินนั่ง               จงระวังในจิตขนิษฐา
อย่าเหม่อ เมินเดินให้ดีมีอัชฌา          แม้นพลั้งพลาดบาทาจะอายคน
เห็นผู้ใหญ่ หรือใครเขานั่งแน่น          อย่าไกวแขนปัดเช่นไม่เห็นหน
ค่อยวอนว่า ข้าขอจรดล                   นั่นแหละคน จึงจะมีปรานีนาง.....

                                .....(การ ครองตน)

อย่าจับปลาสองหัตถ์จะพลัดพลาด     จับให้คงลง ให้ขาดว่าเป็นผัว
จึงนับว่าคนดีไม่มีมัว                       ถ้าชายชั่ว ร้างไปมิใช่ชาย
เป็นผู้หญิงสิ่งใดจะล้ำเลิศ                สุดประเสริฐ ก็แต่ใจไม่เสื่อมสลาย       
ถึงรูปทรง นงคราญจะพาลคลาย        ก็จะกลายส่ง สวยด้วยใจงาม ....

                         บทสรุปปิดท้ายของสุนทรภู่                                     

สุภาษิตซึ่งประดิษฐ์มาไว้นี้                   ล้วนแต่มีเยี่ยงอย่างดังเสกสรร
ใช่จะแกล้ง แต่งคำมารำพัน                 คนทุกวัน อย่างนี้มีอาเกียรณ์* 
(*อาเกียรณ์= เกลื่อนกลาด)
จะร่ำไปสัก เท่าไรก็ไม่หมด                 ขี้เกียจจด เหน็ดเหนื่อยเมื่อยมือเขียน

อุตส่าห์ตรองตริตรึกนึกจำเนียร             ตั้งความเพียรผูกข้อต่อเรื่องราว
พอเป็นเรื่อง สำหรับดับทุกข์โทษ         เป็นประโยชน์ แก่สตรีที่สวยสาว
เป็นตำรับแบบฉบับไปยืดยาว              ในเรื่องราวสุภาษิตลิขิตความ
ข้อไหนชั่ว แล้วอย่ามัวไปขืนทำ           จงจดจำบุญ บาปอย่าหยาบหยาม
เก็บประกอบเอาแต่ชอบในเรื่องความ    ประพฤติตามห้ามใจเสียให้ดี
อย่าฟังเปล่า เอาแต่กลอนสุนทรเพราะ  จงพิเคราะห์คำเลิศประเสริฐศรี
ไว้เป็นแบบ สอนตนพ้นราคี                กันบัดสีคำ ค่อนคนนินทา
ให้สุขีศรีเมืองเลื่องลือฟุ้ง                  หอมจรุงกลิ่นกลั้วทั่วทิศา
เป็นที่ชื่น เช่นอย่างนางสีดา               ในใต้หล้า หมายประคองตัวน้องเอย .....


ข้อมูลจาก http://variety.siam55.com/data/1/0114-1.html

10 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ16 กรกฎาคม 2553 เวลา 07:45

    ซึ้งมากค๊............*-*

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ1 สิงหาคม 2553 เวลา 06:39

    เห็นด้วยอย่างแรงเลยค๊า อาจารย์

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ16 กันยายน 2553 เวลา 21:26

    เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

    ตอบลบ
  4. บทกลอนของครูสอนนู๋ได้ดีมากขร๊า


    ขอขอบคูณที่ครูสอนให้ฯเป็นคนรู้จักคิด

    ตอบลบ
  5. หลอยหนัดเด็กเดียวนี้ ..

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ19 ธันวาคม 2553 เวลา 02:50

    สุดๆ ไปเลยครับ

    ตอบลบ
  7. สุดยอดทางเลียบไปเร๊ยค๊า ครูรุณย์

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ16 มีนาคม 2554 เวลา 21:49

    เยี่ยมมากครับ ขอแสดงความยินดีกับประเทศไทยด้วยที่มีครูที่ตั้งใจเพื่อสร้างสรรค์สังคม ขอบคุณครับคุณครูการุณ
    ครูชายแดน(ตราด)

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ30 เมษายน 2558 เวลา 15:22

    ผ่านครูเหอ ผมนี้คือหลวงแข้งนักขุย
    ผมชอบมาก
    เชื่อผมตะ สักเดียว ผอ.เพชร
    มาแล

    ตอบลบ

นักเรียนทุกคน ช่วยตอบแบบสอบถามนี้ด้วยค่ะ

ดูทีวีครูเรียนรู้วิทยายุทธ

Subscribe Now: Feed Icon