Krukaroon: สิงหาคม 2012

!!!การุณย์ สุวรรณรักษา สังคมศึกษาฯ วรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา!!

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555



ความสำคัญของการบริหารงานวิชาการ


                งานวิชาการเป็นงานที่มีความสำคัญในการจัดระบบงานให้รัดกุม  และมีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ  ฉะนั้น  จึงมีนักการศึกษาได้ให้ความสำคัญของงานวิชาการไว้ดังนี้
                งานวิชาการเป็นหัวใจของโรงเรียน  เป็นชีวิตจิตใจของสถาบันทีเดียว ส่วนงานด้านอื่น ๆ เป็นองค์ประกอบที่จะทำให้สถาบันดำเนินไปด้วยความราบรื่นเท่านั้น(พนัส  หันนาคินทร์,2524 : 235) ผู้บริหารการศึกษา ทุกคนควรจะรับผิดชอบเป็นผู้นำของครูในด้านวิชาการเป็นอันดับแรก  เพราะหน้าที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกแห่ง คือ  การให้ความรู้แก่นักเรียนในด้านวิชาการ  โดยการทำงานร่วมกับครู  กระตุ้นเตือนครูให้คำแนะนำครู  และประสานงานให้ครูทุกคนทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพในการสอน(ภิญโญ  สาธร, 2526 : 232 )  งานวิชาการเป็นงานหลักของการบริหารสถานศึกษา  ไม่ว่าสถานศึกษาจะเป็นประเภทใด  มาตรฐานและคุณภาพของสถานศึกษาจะพิจารณาได้จากผลงานด้านวิชาการ  เนื่องจากงานวิชาการเกี่ยวข้องกับหลักสูตร  การจัดโปรแกรมการศึกษา  และการจัดการเรียนการสอน  ซึ่งเป็นหัวใจของสถานศึกษาซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องทางตรงหรือทางอ้อม ก็อยู่ที่ลักษณะของงานนั้น(ปรียาพร  วงศ์อนุตรโรจน์, 2535 : 15 )
                สมิธ (Smith,1961) ได้ศึกษาและจัดลำดับความสำคัญของงานวิชาการไว้เป็นอันดับแรกงานในความรับผิดชอบของผู้บริหารแบ่งเป็น 7 ประเภท ดังนี้
                งานบริหารงานวิชาการ                                ร้อยละ 40
                งานบริหารบุคลากร                                      ร้อยละ 20
           งานบริหารกิจการนักเรียน                            ร้อยละ 20
           งานบริหารการเงิน                                        ร้อยละ 5
           งานบริหารอาคารสถานที่                             ร้อยละ 5
            งานบริหารความสัมพันธ์กับชุมชน             ร้อยละ 5
            งานบริหารทั่วไป                                         ร้อยละ 5
                ดังนั้นอาจสรุปได้ว่า   งานวิชาการถือว่าเป็นหัวใจของการบริหารการศึกษา เพราะจุดมุ่งหมายของสถานศึกษาก็คือ  การจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ  ซึ่งขึ้นอยู่กับงานวิชาการทั้งสิ้น  งานวิชาการเป็นกิจกรรมการจัดการเกี่ยวกับงานด้านหลักสูตร  การนำหลักสูตรไปใช้  แบบเรียน  งานการเรียนการสอน  งานสื่อการเรียนการสอน  งานวัดผลและประเมินผล  งานห้องสมุด  งานนิเทศการศึกษา  งานวางแผนการศึกษา  และงานประชุมอบรมทางวิชาการ  เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนบรรลุจุดหมายของการศึกษาที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพสูง
                จะเห็นได้ว่าการบริหารงานวิชาการนับเป็นงานที่สำคัญของโรงเรียน  เป็นหน้าที่หลักของโรงเรียน ถือเป็นหัวใจของการบริหารโรงเรียน  โรงเรียนจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับงานวิชาการของโรงเรียน ที่จะสร้างนักเรียนให้มีคุณภาพ มีความรู้  มีจริยธรรม  และคุณสมบัติตามที่ต้องการ เพื่อนำไปใช้ในการดำรงชีวิตในสังคมต่อไปได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลจาก http://portal.in.th/inno-roj/pages/1222/

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แขยง...ขยะ...


ได้โปรดอย่าเฉยเมยกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสถาบันที่เราทำมาหารับประทานอยู่ทุกวี่วัน
โรงเรียนของเรา...เราช่วยกันพูด ช่วยกันเสนอแนะเพื่อความเจริญของโรงเรียนของเรา
ใช่เฉยเมยสนับสนุนเพื่อความเจริญก้าวหน้าของตนเอง...มันน่าละอายเกินไป
ก้าวหน้าอยู่บนความเสียหายของสถาบัน แล้วเราจะภาคภูมิใจอะไรในตัวเราอีกเล่าสหายเอ๋ย
อย่าไปยกย่องพวกเหล่านั้น แต่ควรร่วมประนามสาบแช่งมากกว่านะสหาย


ขยะ...แขยง...ขยะ

                                                                     อัจฉริยะยังไงกันค๊ะ ไปไหนหมดแล้ว
หนูได้อะไรจากเจ้าตัวนี้บ้างค๊ะ?


เที่ยวกันให้สนุกนะค๊ะ
ทัวร์กันให้สนุกนะค๊ะ
                                                         สูทร...ช่วยอะไรหนูบ้างค๊ะ

อยากให้ผ่านมติของที่ประชุมใหญ่ ก่อนได้ไหม ก่อนตัดสินใจ ทำการใด ๆ  เพราะทุกคนก็เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งขององค์กรที่นี่ ควรได้รับเกียรติในการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ  เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นกิจการส่วนบุคคล...อย่าลืมนะค๊ะ 

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แฉ!! 7 พฤติกรรม

ต้องเร่งกำจัดในโรงเรียน!!

  • พฤติกรรมธรรมดาที่มองว่าไม่แปลก..นั่นหล่ะต้องรีบกำจัดด่วน!


          สวัสดีจ้า น้องๆ ชาว Dek-d.com ช่วงนี้น้องๆ ก็เปิดเทอมมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว น้องๆ ปรับตัวกันได้หรือยัง? ที่ จะต้องตื่นแต่เช้ามาโรงเรียน แล้วก็ต้องไม่นอนดึกด้วย ทำกันได้หรือป่าว ? แล้วในห้องเรียนเวลาที่นั่งเรียนละ  น้องๆ ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนของตัวเองบ้างไหม ? มีอะไรที่เรายังต้องปรับเปลี่ยนเพื่อการเรียนหนังสือที่ดีขึ้น

     ถ้าน้องๆ ยังไม่รู้ว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอะไรดี วันนี้พี่อาย มีพฤติกรรม 7 อย่างที่น้องๆ ควรที่จะรีบปรับและกำจัดออกไปอย่างเร่งด่วน นั้นก็คือ ....

     1. แต่งกายผิดกฎระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า...  ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ถุงเท้ารองเท้า เครื่องแบบ กระเป๋าและอุปกรณ์ต้องห้ามต่างๆ น้องๆ ส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 70 ! มักจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจะทำผิดกฎระเบียบบ้าง แต่ เรื่องเล็กน้อยเรื่องนี้ อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ในวันข้างหน้าได้นะคะ ถ้าน้องๆ คิดว่าแค่ไม่ติดเข็มโรงเรียนเอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ถ้าอาจารย์มาเห็นก็แค่โดนบันทึกในประวัติแต่ไม่ได้มีผลกับคะแนนผลการเรียน ของเราซะหน่อย .. .

     พี่อายอยากบอกว่า น้องๆ อาจจะพลาดแล้วละคะ ถึงแม้อาจจะไม่มีผลกับคะแนนผลการเรียนของน้องๆ แต่จะมีผลต่อการสมัครเรียนต่อหรือการทำงานนะคะ เพราะเวลาที่เราไปสมัครเรียนหรือสมัครงานนั้น เขาจะต้องตรวจสอบประวัติพฤติกรรมของน้องๆ ด้วย การที่น้องๆ แต่งกายไม่เรียบร้อยจนเคยชิน เขาอาจจะมองว่าเป็นการส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทหรือองค์กรนั้น น้องๆ อาจจะพลาดโอกาสนี้ไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นน้องๆ ควรจะแต่งกายให้ถูกต้องไม่ผิดกฎระเบียบของโรงเรียนนะ
                                 

     2. ลอกการบ้าน...  เป็น พฤติกรรมยอดฮิตของนักเรียนทุกยุคทุกสมัย ที่ชอบแอบทำในห้องเรียน อาจารย์ยืนสอนอยู่หน้าห้อง เห็นนักเรียนก้มๆ เงยๆ ก็หลงดีใจ   แหม ... นักเรียนของเราตั้งหน้าตั้งตาจดเลคเชอร์ใหญ่เลย ที่ไหนได้รีบลอกการบ้านเพื่อนให้เสร็จก่อนหมดคาบเรียนต่างหาก ...

     ระวังนะคะ .. ลอกการบ้านเพื่อนไปฟังอาจารย์สอนไป ตอนท้ายคาบส่งงานจะกลายเป็นส่งการบ้าน+เลคเชอร์รวมกันเป็นงานเดียวกันนะ (เพราะ พี่อายเคยแล้วจ้า อย่าทำตามนะ ไม่ดี ๆ )
ฉะนั้นน้องๆ ควรจำกัดมันออกซะ เราควรจะมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของเรา การบ้านที่อาจารย์ท่านมอบหมายให้ เราก็ควรที่จะทำให้เรียบร้อยจากที่บ้านนะคะ

                          
     3. มาโรงเรียนสาย ...  หรืออาจเที่ยงเลยด้วยซ้ำ น้องๆ บางคนชอบมาโรงเรียนสายเป็นประจำ ด้วยเหตุผลที่ว่าตื่นสาย! รถติด! เลย ทำให้มาโรงเรียนไม่ทันเข้าแถวหน้าเสาธง แต่บางคนถึงขั้นมาโรงเรียนตอนเที่ยง เพราะเคยชินกับการตื่นนอนช่วงสิบเอ็ดโมงเลยมาเรียนช่วงเช้าไม่ทัน

     ถ้าน้องๆ คนไหนยังมาโรงเรียนสายแบบนี้ คะแนนความประพฤติของน้องๆ จะไม่เหลือเอานะคะ น้องๆ อาจจะต้องมาซ่อมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในช่วงปิดเทอม และอดไปเที่ยวกับครอบครัวด้วย แล้วยังทำให้น้องๆ เรียนตามเพื่อนคนอื่นไม่ทันอีก เพราะฉะนั้นต้องกำจัดซะ ตื่นแต่เช้าและมาโรงเรียนให้ทันเวลาเข้าแถวหน้าเสาธงด้วย
 
     4. หลับ ...  กิจกรรมหลักของเด็กหลังห้อง หรือริมหน้าต่าง เหตุผลสำหรับคาบเช้า แบบว่าเมื่อคืนนอกดึกง่วงมากกว่าซี่รี่ส์จะจบ ไหนจะต้องดูบอลต่ออีกนะ เหตุผลของคาบบ่าย แบบว่ากินข้าวมาอิ่มๆ เล่นบาสมาเหนื่อยๆ หนังท้องติ่งหนังตาก็หย่อน  เลยของีบหน่อย

     ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ด้วยแล้วน้องๆ หลายคนคงตั้งหน้าตั้งตาดูไม่หลับไม่นอน เลยทำให้ตื่นเช้ามาเรียนไม่ไหว ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอจนเผลอนอนหลับในห้องเรียน เป็นการกระทำที่ไม่ดีเลยนะจ๊ะเด็กๆ อยู่ในห้องเรียน ก็ต้องเรียน

     เมื่อรู้ว่าต้องตื่นมาเรียนตอนเช้าเราก็ควรจะรีบนอนและพักผ่อนให้เพียงพอ เช้ามาจะได้มาเรียนแบบสดชื่น ...
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
     5. กินขนม ...  อ้า เมื่อเช้าตื่นสาย ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย .... หิวจัง เหตุผลยอดฮิตที่เป็นสาเหตุของการแอบกินขนมในห้องเรียน พออาจารย์หันหลังไป เขียนกระดานเท่านั้นละ มือที่สอดอยู่ใต้โต๊ะ ก็หยิบอะไรก็ไม่รู้เข้าปาก  งับ มุบ มุบ .. พออาจารย์หันกลับมาพูดก็ก้มหน้าก้มตาจดๆ (ไม่รู้ไม่ชี้)

     เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีนะคะ เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติอาจารย์ผู้สอน มารยาทการเป็นผู้ฟังที่ดีเราควรตั้งใจและสนใจผู้พูด ไม่ทำกิจกรรมใดๆ ที่เป็นการรบกวนผู้พูด ดังนั้นน้องๆ ชาว Dek-D.com เรามาเลิกกินขนมในห้องเรียนกันเถอะนะ

     6. คุย ... ทั้ง คุยโทรศัพท์ และคุยกันเองกับเพื่อนข้างๆ พอดีว่าอารมณ์ยังค้างกับละครเมื่อคืนอยู่เลยยังเมาท์ไม่หมด ขอเมาท์ต่ออีกนึง แต่ก็จะพบกับสายตาดุๆ จากอาจารย์ และเพื่อนๆ ที่ตั้งใจเรียนอยู่ ไม่ดีเลยนะพฤติกรรมนี้ เพราะจะเป็นการสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนที่เข้าตั้งใจเรียนอยู่นะคะ
 
      7. อ่านการ์ตูน เล่นเกม แชท ...   เป็นอีกพฤติกรรมหนึ่ง ที่มักปรากฏอยู่ใต้โต๊ะเรียน.. วิชานี้ไม่ชอบ ไม่อยากเรียน ก็จะหยิบหนังสือ โทรศัพท์มือถือ หรืออื่นๆ ขึ้นมาเล่นใต้โต๊ะ เพื่อแก้เบื่อ

      ระวังจะโดนอาจารย์ยึดนะ!!  ถ้าไม่อยากโดนยึด ก็ไม่ควรทำพฤติกรรมนี้ในเวลาเรียน เปลี่ยนไปทำในเวลาพักกลางวันหรือเวลาหลังเลิกเรียนแทนจะดีกว่า    

          พฤติกรรมเหล่านี้ น้องๆ อย่าไปเสียดายเลยนะ ไม่ต้องเก็บรักษาเอาไว้ ควร ที่จะรีบจำกัดออกไป ถ้าน้องๆ กำจัดพฤติกรรมเหล่านี้ออกไปได้ น้องๆ ก็จะมีสมาธิในการเรียนมากขึ้นช่วยให้ผลการเรียนดีขึ้น อาจารย์ก็จะชื่นชมมากขึ้นเองด้วย
นอกจากนี้น้องๆ ก็จะมีหุ่นที่ดี สวย หล่อเพราะไม่กินขนมจุกจิกอีกด้วยนะ อิอิ
ดังนั้นเรามาจำกัดพฤติกรรมเหล่านี้ออกไปกันเถอะ
เพื่ออนาคตที่ดีของเราเองนะคะ

^__________________________^


ขอบคุณรูปภาพจาก
http://www.oknation.net
http://picdb.thaimisc.com
http://www.dt.mahidol.ac.th
http://www.happyreading.in.th
http://www.bntschool.com/
http://บึงกาฬ.com

ข้อมูลจาก  www.dek-d.com/content/education
28:08:2012:23:30

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แสดงความคิดเห็นเรื่อง "มหัศจรรย์ วันกางเต้นท์"

                                    มหัศจรรย์ "วันกางเต้นท์"

    นี่เธอ จะไปไหน  เราจะไป  เข้า Rally            Rally ณ ที่ใด  เราจะไป  ให้ทุกที่
    ไปในเต้นท์  เรียงรายเด่น เป็นสักขี               วิชาการ ท่านว่ามี  ลองดูซิ มีอะไร
    แต่ละห้อง  บอร์ดสี่ชิ้น                               เหมือนกันสิ้น เธอว่าไหม  
    ความรู้ดี  มีวินัย                                       และก็ ใฝ่คุณธรรม
    จรรยางาม  ห้อยต่องแต่ง                           ลูกโป่งแดง สดใสล้ำ
    แผ่นซีดี  ห้อยประจำ                                ต่างช่วยทำ ทั้งพารา
    แรงจูงใจ  มีมากมาย                                 กระตุ้นให้  ไปศึกษา
    คนเฝ้าเต้นท์  เอนกายา                             ดีดกีต้าร์  มาปลอบใจ
    เด็กทั้งห้อง  เตรียมร้องเพลง                      เสียงแซ่เซ็ง อยู่ไหวไหว
    รอคนตรวจ  ตรวจผ่านไป                           ต่างสดใส ร้องไชโย
    พีวีซี  ทั้งสี่ด้าน                                       ยังใช้งาน  ได้อีกโข
    งานชุมนุม ก็เมโม                                    ติดเต้นท์โชว์  ได้อีกครา
    Rally  วิชาการ                                       ดูแล้วมัน เศร้านักหนา
    เสียเท่าไร  ต้องตรวจตรา                          สิ่งได้มา  คุ้มค่าฤา
    วิชาการ ผลงานหมวดฯ                            ร่วมประกวด  มิใช่หรือ
    นักเรียนรวม ร่วมฝึกปรือ                           สิ่งนี้คือ ประสบการณ์
    จุดเด่นงาน มันอยู่นี่                                 ไม่ใช่ที่  เต้นท์เธอฉาน
    และสิ่งเดียว อัศจรรย์                               คือชื่องาน นั้นปะไร
    อัศจรรย์ โรงเรียนเล็ก                              ที่เด็กเด็ก บอกไม่ไหว
    เพราะไม่มี สิ่งจูงใจ                                 อยู่ในเต้นท์ เป็นสำคัญ
    ทุ่มทุน มหาศาล                                     ผลของงาน พาลเสียขวัญ
    ทุ่มไป ทำไมกัน                                      หากสงสาร ปรับปรุงที
    ศิษย์เก่า เรามีอยู่                                    ต่างก็รู้ ช่วยหน่อยสิ
    ผู้ปกครอง เราก็มี                                    ช่วยหน่อยซี อย่าละเลย
   ขอขอบคุณ ที่เมตตา                                 เราคอยท่า คำเฉลย
   ขอเป็นสุข ทุกท่านเอย                              จบภิเปรย  สวัสดี




     

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โครงการตรวจการใช้งบประมาณโรงเรียน


 ข้อมูลจาก  http://www.thairath.co.th/content/edu/2831 (13:08:12)


                  โดยความคิดเห็นส่วนตัว เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเพราะการใช้งบประมาณควรใช้ด้านการเรียนการสอนไม่ควรต่ำกว่า 50 เปอร์เซนต์  และสิ่งที่น่าตกใจหากเราใช้งบเพื่อการเรียนการสอนเพียง 10 %
ผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือควร วางมาตรการการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของโรงเรียนเป็นการด่วน
ซึ่งจะป้องกันการคอรัปชั่นได้เป็นอย่างมาก  และที่สำคัญผลประโยชน์จะได้ตกแก่นักเรียนอย่างจริงจัง
ให้สมกับคำหวานที่พูดกันไม่หยุดหย่อน "เด็กเป็นสำคัญ"  ถ้าใช้งบเพื่อเด็กต่ำมากเกินไป มันก็ไม่ใช่ "เด็กเป็นสำคัญ"อีกต่อไป
                  การใช้จ่ายงบประมาณสมควรให้ครู และกรรมการสถานศึกษาได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการคิด ตัดสินใจ ในโครงการที่ต้องใช้จ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะโครงการที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก และ
งบประมาณที่มีผลผูกพันต่อเนื่องกับโรงเรียนต่อไปในกาลข้างหน้า ไม่ควรดำเนินการโดยลำพัง  เมื่อเกิดปัญหาขึ้นต่อไปใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
                 และไม่เป็นการสมควรที่จะเบียดบังเงินที่ควรทุ่มเทให้กับการเรียนการสอน ไปใช้ในด้านอื่น ๆ ที่ไม่ได้ช่วยส่งเสริมสนับสนุนเกี่ยวข้องกับ "การเรียน"ของนักเรียนแต่ประการใดเลย
                 เป็นอันว่าถ้า สสค.ทำได้ตามที่ได้แสดงเจตนาไว้  ก็ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยคนหนึ่ง

วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นักเรียนขับไล่ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียน


กาฬสินธุ์- นักเรียนโรงเรียนเขาวงพิทยาคาร จ.กาฬสินธุ์ กว่า 1,000 คน ฮือไล่ ผอ.และรอง ผอ.ออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง อ้างมีพฤติกรรมแสวงหาผลประโยชน์ บริหารงานล้มเหลว ด้าน ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 ตั้ง กก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้ ผอ.เข้ามาช่วยราชการจนกว่าผลสอบข้อเท็จจริงจะเสร็จสิ้น
    
       วันนี้ (22 พ.ย.) ที่โรงเรียนเขาวงพิทยาคาร อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ นักเรียนโรงเรียนดังกล่าวอ้างชื่อว่า กลุ่มแนวร่วมพิทักษ์ธรรม กว่า 1,000 คน ชุมนุมขับไล่นายสัญชาติ ตาลชัย ผู้อำนวยการโรงเรียน และ นายทรงฤทธิ์ เถาว์ชาลี รองผู้อำนวยการโรงเรียน ออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง โดยอ้างผู้บริหารทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมส่อทุจริตแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง
    
       โดยเฉพาะการหักเปอร์เซ็นต์ โครงการรับเหมาก่อสร้างภายในโรงเรียนหลายโครงการ อีกทั้งยังบริหารงานงานล้มเหลว ทำให้การเรียนการสอนของนักเรียนตกต่ำ ส่งผลให้ผู้ปกครองต้องย้ายบุตรของตนเองไปเรียนที่อื่น
    
       นายเสฏฐวุฒิ ศรีพูล ตัวแทนนักเรียนที่ชุมนุมประท้วง กล่าวว่า โรงเรียนเขาวงพิทยาคาร เป็นสถาบันการศึกษาประจำอำเภอที่สร้างคน สร้างชื่อเสียงนำพาความภาคภูมิใจสู่พี่น้องประชาชนชาวอำเภอเขาวงมาโดยตลอด จนเมื่อนายสัญชาติ ตาลชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ย้ายมาเป็นผู้บริหาร นำความเสื่อมถอยด้านวิชาการ ทำให้ผลการเรียนการสอนของนักเรียนตกต่ำลง นักเรียนที่เรียนเก่งๆต้องย้ายที่เรียนไปเกือบหมด
    
       นอกจากนี้ นายสัญชาติ ยังได้แต่งตั้ง นายทรงฤทธิ์ เป็นรองผู้อำนวยการ ทั้งที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู มีพฤติกรรมส่อทุจริตแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง โดยเฉพาะโครงการรับเหมาก่อสร้างภายในโรงเรียนหลายโครงการ เช่น การรับเหมาก่อสร้างและปรับปรุงอาคารสถานที่ การปรับปรุงโรงอาหาร การซ่อมบ้านพักครู 2 หลัง การเทคอนกรีตหน้าเสาธง และการเรียกเก็บการซื้อพัสดุจากร้านค้าต่างๆ ซึ่งแต่ละโครงการมีผู้รับเหมาเพียงรายเดียวเท่านั้น
    
       นายเสฏฐวุฒิ กล่าวอีกว่า จากพฤติกรรมของผู้บริหารทั้ง 2 คน นักเรียนรวมถึงศิษย์เก่าและผู้ปกครองจึงได้รวมตัวกันชุมนุมขับไล่นายสัญชาติ และนายทรงฤทธิ์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 24 ดำเนินการย้ายผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมงทันที หากยังไม่ได้รับคำตอบ นักเรียนทุกคนจะชุมนุมยืดเยื้อ จะไม่เข้าเรียนจนกว่าทั้ง 2 คน จะย้ายออกนอกพื้นที่และจะเดินทางเข้าไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด กาฬสินธุ์ต่อไป
    
       ล่าสุด นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้สั่งการให้นายสุริยนต์ วะสมบัติ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 จังหวัดกาฬสินธุ์เข้าเจรจากับนักเรียนแล้ว
    
       นายสุริยนต์ วะสมบัติ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่เข้าไปเจรจากับนักเรียนแล้ว โดยนักเรียนได้ยื่นข้อเสนอคือ 1.ให้จัดครูวิทยาศาสตร์มาให้เหมาะสม 2.ให้ผู้บริหารสนับสนุนกิจกรรมของนักเรียนทุกๆด้าน 3.ปรับปรุงห้องเรียนให้อื้อต่อการเรียนการสอน ซึ่งตนรับปากจะดำเนินการให้
    
       และ 4.ให้ย้ายนายสัญชาติ ตาลชัย ผู้อำนวยการโรงเรียน และนายทรงฤทธิ์ เถาว์ชาลี รองผู้อำนวยการโรงเรียนออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง โดยเรื่องดังกล่าวเป็นการกล่าวหา จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
    
       เบื้องต้นจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา คาดว่าจะน่าทราบผลภายใน 7 วัน และจะให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเข้ามาช่วยราชการในสำนักงานจนกว่าการสอบสวน เสร็จสิ้น ส่วนรองผู้อำนวยการนั้น เป็นการแต่ตั้งกันภายใน ซึ่งโรงเรียนและคณะกรรมการศึกษาจะต้องเป็นผู้ดำเนินการ
    
       อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนายสัญชาติ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ


ข้อมูลจาก http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000165149

นักเรียนทุกคน ช่วยตอบแบบสอบถามนี้ด้วยค่ะ

ดูทีวีครูเรียนรู้วิทยายุทธ

Subscribe Now: Feed Icon