Krukaroon: 8 สาเหตุเรียนไม่จบ

!!!การุณย์ สุวรรณรักษา สังคมศึกษาฯ วรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา!!

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

8 สาเหตุเรียนไม่จบ



          ในโอกาสได้จัดกิจกรรมน้องเฟรชชี่นี้ จึงขอนำเสนอแนวคิดที่ได้จากประสบการณ์จริงทั้งที่ประสบและเห็น มาฝากน้องๆ เฟรชชี่รวมทั้งน้อง ๆ ชั้นปีอื่นที่เรียนในมหาวิทยาลัยทุกคนด้วยความตั้งใจอยากให้น้องทุกคนได้ดี ครับ

สำหรับข้อเตือนใจที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เรียนไม่จบมหาวิทยาลัย มีทั้งสิ้น 8 ข้อครับ ลองดูทีละข้อน่ะครับ ค่อย ๆ อ่านแล้วนึกตาม

1. อ่านหนังสือใกล้สอบ

จำได้ว่าเทอมแรกในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นช่วงที่ รู้สึกสบาย และยังดีใจไม่ทันหมดที่สอบได้เรียนมหาลัย แต่พอเห็นเกรดแทบจะเป็นลมเพราะได้แค่ 1.96 ซึ่งเกิดมาไม่เคยได้เกรดต่ำขนาดนี้ ตอนที่เรียนม.ต้น ได้อย่างต่ำ 3.54 เรียกม.ปลายได้อย่างต่ำ 2.8 แต่พอเข้ามหาลัย(คณะวิศวฯ) กลับได้แค่ 1.96 และถ้าเป็นอย่างนี้ซักสองสามเทอมคงบ๊ายบายจากมหาลัยแน่

พอเห็นเกรด ต่ำดังนั้นแล้ว ก็เลยคิดว่าเกิดจากอะไรบ้าง และปัจจัยหลัก ๆ คงเกิดจากสองสาเหตุ คือ หนึ่ง มักจะโดดเรียนหรือเข้าเรียนสายเป็นประจำ อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ อ่านหนังสือไม่ค่อยทัน เพราะใช้เวลาแค่ซักสัปดาห์เดียวเหมือนตอนอยู่มัธยม

แต่ที่มหาลัย นี่ ต้องยอมรับว่าเนื้อหาเยอะจริง ๆ อ่านสัปดาห์สองสัปดาห์ไม่ค่อยทัน ถ้าอ่านลวก ๆ หน่ะทัน แต่ถ้าอ่านเพื่อไปตอบแบบเขียนบรรยายเป็นหน้า ๆ หรือต้องทำโจทย์คณิตศาสตร์แบบแสดงวิธีทำ แทบทำไม่ได้เลย เพราะไม่มีเวลาทำโจทย์มาก่อน ดังนั้น ตั้งแต่เทอมสองเป็นต้นมาจึงพยายามอ่านก่อนสอบซักสามสัปดาห์ เท่านี้ ก็อ่านทันแล้ว และถ้าให้แจ๋วก็อ่านมาตลอดทั้งเทอมยิ่งสบายใหญ่

2. โดดเรียนบ่อย

เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ได้เกรดไม่ค่อยดี อย่างพี่เองใช้วิธีเรียนผิด ๆ ในเทอมแรก เห็นอาจารย์ไหนไม่เช็คชื่อก็มักจะโดดเรียนบ่อยแล้วค่อยไปให้เพื่อนติวกัน ใกล้สอบ แล้วก็รู้เรื่องเร็วจริงแต่มักจะไม่ค่อยตรงกันที่อาจารย์สอนเท่าไหร่ เทอมต่อมาจึงพยายามไม่โดดเรียน และต่อมาก็ค้นพบว่ายิ่งช่วงใกล้สอบเท่าไหร่ อาจารย์ก็มักจะเผยให้เห็นแนวข้อสอบเสมอ และถ้าเด็กบางคนถามเก่ง ๆ อาจารย์ก็มักจะเผยให้เห็นแนวข้อสอบชัด ๆ เลย ลองดู

3. นอนดึก

เรื่องนอนดึกมักเป็นของคู่กันกับโปรแกรมเมอร์หรือเด็กชอบเที่ยว แต่ผลเสียสุดท้ายเหมือนกันคือ เช้าวันต่อมามักจะไปเรียนสายหรือโดดเรียน และการนอนดึกเพราะอ่านหนังสือนั้น หากมองเผิน ๆ จะเห็นเหมือนว่าเป็นเด็กตั้งใจเรียน แต่พี่มองว่าเกิดจากการไม่อ่านหนังสือแต่เนิ่น ๆ แล้วอ่านไม่ทันมากกว่า และหลายครั้งลองสังเกตดูดีดีว่าคนที่อ่านหนังสือแล้วนอนดึกมักจะเริ่มต้น อ่านหนังสือสาย อย่างบางคนจับกลุ่มอ่านหนังสือก็นัดกันซักสองทุ่ม เจอกันก็เมาท์กันเกือบชั่วโมง เริ่มจริงซักสามทุ่ม พอ ห้าทุ่มเศษก็เลิกอ่านแล้วไปกินหมี่ไก่หรือกินกาแฟกันต่อ สรุปแล้ว ใช้เวลาอ่านแค่สองชั่วโมงกว่า

ลองดูอีกคนที่เริ่มอ่านหนังสือเร็ว (ในกรณีที่กลางวันเรียนหนังสือ) เช่น อ่านตั้งแต่ห้าโมงเย็นซักชั่วโมง แล้วไปกินข้าว กลับมาอ่านต่อตั้งแต่หนึ่งทุ่มถึงสี่ทุ่ม แล้วเข้านอน รวมทั้งหมดได้อ่านสี่ชั่วโมง เห็นความแตกต่างมั๊ยครับ

และผลเสีย ของการนอนดึกแล้วไปสอบยิ่งแย่ใหญ่ พี่จำได้ว่า มีวิชานึงที่อ่านไม่ทัน คืนก่อนสอบจึงต้องอ่านหนังสือทั้งคืน พอตอนเช้าก็นำซากติดวิญญาณไปสอบนิดนึง มือไม้สั่น แค่อ่านโจทย์ก็งงแล้ว จะให้สอบได้คะแนนดีได้ไง ก็อย่าลืมน่ะครับ อ่านแต่เนิ่น ๆ อย่านอนดึก
ครั้งนี้ ขอต่อจากตอนก่อนที่กล่าวไว้ 3 ข้อถึงสาเหตุที่ทำให้เรียนไม่จบ ที่ได้จากประสบการณ์จริงที่ผมพบมา และจากการพูดคุยหรืออ่านจากแหล่งต่าง ๆ เอาหล่ะครับ ดูอีก 5 ข้อที่เหลือครับ


สาเหตุที่ 4 บ้าเกมหนัก


เรื่องเกมเป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้นักศึกษาเสียการเรียนมานักต่อนัก แล้ว อย่างบ้านเรายังไม่เห็นจะจะซักเท่าไหร่ แต่ที่ต่างประเทศ คนบ้าหนักขนาดปิดห้องนอนเล่นกันข้ามวันข้ามคืน หรืออย่างที่ญาติห่าง ๆ ผมเคยเจอแค่เป็นเด็กมัธยม แต่บ้าเกมขนาดหนีเรียนไป 3 วันเพื่อไปเล่นเกมอย่างเดียวก็เคยทำมาแล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมออนไลน์มีอานุภาพสูงในการทำให้หลงใหลใช้เวลาเป็นหลายชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกที อ่านหนังสือไม่ทัน รู้ตัวอีกที โดนรีไทร์แล้ว


สาเหตุ ที่ 5 เมาแล้วขับ


จำได้ว่าสมัยที่เรียนมหา’ลัย อยู่นั้น แทบทุกเทอมจะมีข่าวคราวของนักศึกษาร่วมมหา’ลัย ที่เมาเหล้าแล้วขับรถไปชนจนทำให้เสียชีวิต อย่างคนที่เมาแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ไปชนเสาไฟฟ้าก็หลายราย เมาแล้วขับรถเร็วขึ้นเนินแล้วตีลังกาหัวฟาดพื้นตายก็มี คนที่ฉลองสอบเสร็จแล้วดื่มเหล้าเมาไปชนรถคนอื่นจัง ๆ จนตายก็มี ผมเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ก็คงนึกว่าเรื่องอย่างนี้ไม่น่าจะเกิด แต่ก็เกิดมาแล้วนักต่อนัก


สาเหตุที่ 6 หลงมากกว่ารัก


ชีวิตนักศึกษาเป็นช่วงที่ก้ำกึ่งความเป็นวัยรุ่นกับผู้ใหญ่ ดังนั้น หลายคนจึงมีอิสระและคิดว่าตัวเองมีวิจารณญาณในการมีแฟนแล้ว แต่ในความเป็นจริง ผมพบว่า ส่วนใหญ่มักจะเป็นการหลงมากกว่าความรักที่แท้จริง และความหลงนี่เอง ถ้าแปรเป็นความรักได้ก็จะเป็นพลังในการเล่าเรียน อย่างเพื่อนของผม ไม่รีไทร์ก็เพราะใช้พลังแห่งความรักนี่แหละ ฝ่าฟันจนรอดพ้นมาได้ โดยการอ่านหนังสือกับแฟนตลอดทั้งเทอม แต่ส่วนใหญ่ที่หลงรักแล้วเสียคนก็มีให้เห็นเยอะ อย่างหลงจนท้องต้องดร็อปแล้วเลิกเรียนก็มีให้เห็นอยู่ถมไป หรือคนที่ผิดหวังจากความรักก็แทบไม่มีใจจะเรียนอะไร เฮ้อ ต้องระวังให้เยอะ


สาเหตุที่ 7 ฟุ่มเฟือย เงินไม่พอ


จาก ประสบการณ์และการพูดคุยหรืออ่านจากที่ต่าง ๆ สรุปว่า ชีวิตนักศึกษามักจะฟุ่มเฟือยแยกกันสองอย่างใหญ่ โดยผู้ชายมักจะฟุ่มเฟือยเรื่องของเทคโนโลยี แต่ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ที่เท่าไหร่ก็คือ ผู้ชายชอบเล่นพนันบอล ซึ่งมีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ หรือเกิดฟลุ๊คได้เงิน แป๊บเดียวก็คืนกลับไปให้เจ้ามือ ส่วนผู้หญิงเองก็มักจะฟุ่มเฟือยเกี่ยวกับความงาม เสื้อผ้า หรือมือถือใหม่ ๆ และที่จะไม่พอหนักก็คือไปเที่ยวกลางคืน ซึ่งทั้งผู้ชายผู้หญิงเองพอเงินไม่พอก็จะเป็นสาเหตุให้ต้องหาเงินโดยผิดวิธี หรือกู้หนี้ แล้วต้องหนีหนี้หัวปักหัวปำ หรือถ้าผู้หญิงก็ร้ายหน่อยต้องหาเงินโดยขายตัวก็มีให้เห็นอยู่ถมไป จนเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เรียนไม่จบ


สาเหตุที่ 8 คบเพื่อนเลว

ทั้งนั้น ทั้งนี้ สาเหตุทั้ง 7 ข้อ ก็มักจะมีสาเหตุมาจากเพื่อนเลว ๆ ทั้งหลายแหล่ เช่น เป็นต้นเหตุของการพากันไปเมาเหล้า พนันบอล เที่ยวหัวราน้ำ ขายตัวหาเงินซื้อของฟุ่มเฟือย เพราะฉะนั้น ห่าง ๆ เพื่อนเลว ๆ แล้วก็จะทำให้เรียนจบได้ปริญญาสมใจครับ

     และสุดท้าย ขอให้น้อง ๆ ที่ได้อ่านบทความนี้ จงห่างไกลสาเหตุทั้งหมดนี้ และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงดลบันดาลให้ทุกคนเรียนหนังสือได้ความรู้ ได้ปัญญา เพื่อนำไปใช้ในการทำงานและสร้างอนาคตต่อไป

2 ความคิดเห็น:

  1. แย่ละครับ

    เกือบทุกข้อ

    เหอะๆ

    แต่เพื่อนเลว มิเคยคบคร๊าฟฟฟฟ

    เกมหนะเล่นแต่ที่บ้าน

    ^^!

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ

นักเรียนทุกคน ช่วยตอบแบบสอบถามนี้ด้วยค่ะ

ดูทีวีครูเรียนรู้วิทยายุทธ

Subscribe Now: Feed Icon