Krukaroon: ยาเสพติดลุกลามในโรงเรียน

!!!การุณย์ สุวรรณรักษา สังคมศึกษาฯ วรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา!!

วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ยาเสพติดลุกลามในโรงเรียน


  เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป และต้องยอมรับกันอย่างเปิดเผยเสียทีนะครับว่า ณ บัดนี้นั้น ยาเสพติดได้บุกทะลุทะลวงเข้ามาในโรงเรียนอย่างน่าสะพึงกลัว  นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในการขยายตลาดค้ายาของเอเย่นต์ยาบ้าในจังหวัดสงขลา 
    โรงเรียนเป้าหมายที่เคยมีกรอบรอบรั้วอันเข้มแข็งเป็นอย่างมากในสมัยอดีต อันเป็นโรงเรียนชั้นนำ หรือโรงเรียนยอดนิยม กลับไม่มีการปรับกลยุทธ์กลวิธีในเชิงรุก เพื่อต่อต้าน
การทะลักเข้ามาของยาเสพติดได้  การมอบหมายให้ฝ่ายพัฒนาผู้เรียนเป็นผู้รับผิดชอบพฤติกรรมนักเรียนโดยลำพัง นับว่าไม่ถูกต้องเป็นจุดอ่อน เป็นช่องโหว่วอย่างกว้างขวางทีเดียว  ยิ่งเรารับผิดชอบโดยแบ่งแยกแตกย่อยกันออกเป็นระดับ ม. ม.ใคร ม.มันด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ยิ่งอ่อนแอลงไปมากมาย นี่ประการหนึ่ง
    งานเอกสารของฝ่ายพัฒนาผู้เรียนหรือฝ่ายปกครองเดิม มีล้นหลามหาศาล เรียกว่าแค่นั่งลงทำเฉพาะเอกสารกันอย่างเดียว เวลาที่มีว่างจากงานสอนก็หมดเสียแล้ว จะเอาเวลาไหนไปเดินตรวจตราตามอาคาร ห้องเรียน ห้องส้วม ห้องน้ำต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งในการกระจายและเสพยาตั้งแต่บุหรี่ กัญชายัดไส้ ตลอดถึงยาบ้าจะอยู่ที่ห้องส้วมนั่นเอง
    ในวันหนึ่ง ๆ จะมีครู อาจารย์ สักกี่คน ที่เดินไปตรวจตราพฤติกรรมของนักเรียนตามห้องน้ำห้องส้วมบ้าง ไม่ค่อยมีให้เห็น ทำไมหรือ ก็เพราะพวกเรานำงานในการตรวจตรา
อันเป็นหน้าที่ของครูอาจารย์โดยแท้โดยตรง ไปมอบหมายให้กับบุคคลที่โรงเรียนว่าจ้าง
ให้เข้ามาทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะที่นักเรียนเรียกกันติดปากว่า "ตำรวจโรงเรียน" ท่านคิดว่า
มันถูกต้อง มันบังเกิดผลดีแล้วหรือที่มอบหน้าที่อันหนักหน่วง อันเป็นภัยที่น่าสะพึงกลัว
จากยาเสพติดไปให้กับบุคคลที่เรียกว่าตำรวจโรงเรียน ที่มีอยู่แค่สองสามคน แต่รับผิดชอบนักเรียนเกือบสี่พันคน
     นักเรียนมีคนคอยสอดส่องความเคลื่อนไหวอยู่หน้าห้องส้วม พอเห็นตำรวจโรงเรียน
มันส่งข่าวให้เพื่อนที่อยู่ภายในห้องส้วมรู้ตัว ก็จับตัวจับยาไม่ได้สักที 
     เหตุยืนยันแห่งการแพร่ระบาดของยาเสพติดในโรงเรียน ก็คือการตรวจยึดยาบ้าได้โดยบังเอิญจากกรณีนักเรียนคนหนึ่งมาโรงเรียนสายเป็นประจำ กว่าจะรู้ยาก็แพร่ไปตาม
เครือข่ายเกือบทุกระัดับชั้นแล้ว
     เมื่อเร็ว ๆนี้ผู้ปกครองนักเรียน เกิดข้อสงสัยในพฤติกรรมของลูกที่เปลี่ยนแปลงไป
จึงได้มาซุ่มจอดรถสังเกตการณ์อยู่ิริมรั้วโรงเรียนด้านนอก และให้แม่ของนักเรียนเข้ามา
ภายในโรงเรียน และพฤติกรรมการส่งยาก็ปรากฎต่อสายตาผู้ปกครอง ฝ่ายแม่นักเรียนก็
เข้าไปทันเหตุทันเวลา  จึงนำตัวแจ้งอาจารย์และโรงเรียนได้พิจารณาให้นักเรียนกลุ่มนี้
ออกจากโรงเรียนไปอีกกลุ่มหนึ่ง โดยไม่มีการแจ้งความอันเป็นการทำลายอนาคตของนักเรียนกลุ่มนี้ แต่ก็นั่นแหละครับหากนักเรียนกลุ่มนี้ยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ย้ายไปอยู่โรงเรียนอื่น ก็จะยิ่งทำใ้ห้ยาเสพติดขยายตัวในวงกว้างมากยิ่งขึ้น คิดกันดี ๆ อย่างพินิจ
พิจารณานะครับ
     เคยพูดไว้ในที่ประชุมใหญ่ไว้นานแล้วว่า มาตรการด้านการควบคุมพฤติกรรมนักเรียน
สมัยปัจจุบันต้องเป็นแบบเชิงรุก ก่อนรับนักเรียนเข้ามาต้องผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ตรวจตราโดยเฉพาะ หากมีพฤติกรรมติดยาคณะกรรมการก็จะทำเครื่องหมายกากบาทเอาไว้ และจะไม่พิจารณาให้เข้าเรียน  แต่มาตรการนี้ได้ยกเลิกไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้แหละครับ อันนี้แหละเป็นสาเหตุสนับสนุนการแพร่ระบาดของยาเสพติดอีกเหตุผลหนึ่ง
      ผู้ปกครองนักเรียน ครูอาจารย์ที่เคารพรักทุกท่านครับ เจตนาที่เขียนบทความนี้มิได้มีเจตนาให้ร้ายป้ายสีบุคคลใด เพียงแต่เขียนบอกเล่าในฐานะครูอาวุโส ณ ที่นี่ ด้วยความหวังดี จะได้ร่วมมือกันในการสะกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติดให้ลดน้อยถอยลงโดยเร็ววันต่อไป
      ด้วยความเคารพครับผม

1 ความคิดเห็น:

นักเรียนทุกคน ช่วยตอบแบบสอบถามนี้ด้วยค่ะ

ดูทีวีครูเรียนรู้วิทยายุทธ

Subscribe Now: Feed Icon