ในขณะที่ศิษย์ยังอยู่ในวัยเด็กวัยรุ่น ยังมีความทะเล้นทะลึ่งตึงตัง ทำให้เกิดความขัดแย้ง
บรรยากาศในห้องเรียนอาจตึงเครียด ด้วยความไม่เข้าใจกันระหว่างครูกับศิษย์ ซึ่งมีอยู่บ่อย ๆ
ในทุกระดับชั้น และในทุกโรงเรียน ดังนั้นครูก็ต้องทำใจไว้ให้มาก ๆ ศิษย์ของเราจะมีความพร้อม ที่จะรับที่จะเรียนให้เหมือนกันทุก ๆคนนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้
นักเรียนต้องการให้ครูสอนน้อย ๆ จดบันทึกน้อย ๆ ในขณะที่ครูต้องการสอนให้จบตาม
แผนการสอนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เพราะถ้าสอนไม่ทัน ครูต้องสอนเสริมอีก เป็นภาระในการนัดหมายให้นักเรียนหาเวลาว่างมาเรียนชดเชยหรือเรียนเพิ่มเติมเสริมในส่วนที่สอนไม่ทัน
ยิ่งปัจจุบันนี้ นักเรียนแทบไม่มีเวลาว่างเลยในแต่ละวัน เวลาในการเข้าสืบค้นในห้องสมุด
ก็หาเวลาได้ยากยิ่ง แล้วเวลาในการเรียนเสริมจะเอาเวลาไหนมาชดเชย ดังนั้นหนทางแก้ไข
ก็คือการที่ครูผู้สอนต้องใช้สื่อการสอนที่นักเรียนสามารถ เรียนชดเชยได้ด้วยตนเอง ทุกที่ทุกเวลา นั่นคืออีเลินนิ่งหรืออีบุ๊ค หรือเว็บบล็อคประจำวิชา แต่ก็อีกนั่นแหละครูผู้สอนยังไม่ค่อยมีใครสามารถผลิตสื่อดังกล่าวเหล่านี้ได้ เพราะการสนับสนุนในด้านนี้ของโรงเรียนเราัยังมีน้อยมาก ครูส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้วิธีการสอนแบบเดิม ๆ แบบฉายแผ่นใสไร้สีสรรค์ หรือแบบ
เขียนกระดาน ประกอบการบรรยาย
จากปัญหาของผู้สอน จึงอยากขอความร่วมมือจากบรรดาศิษย์ทั้งหลาย ว่า
- ควรตั้งใจเรียน
- อย่าเข้าห้องสายโดยไม่จำเป็น
- ทำกิจกรรมในชั้นเรียนตามที่ครูมอบหมายให้เสร็จให้ทันเวลา
- อย่ากระทำการใด ๆ ที่ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนเกิดความตึงเครียด
ในด้านครูผู้สอนก็ควรอะลุ่มอะล่วยบ้าง ตามสมควร เพราะนักเรียนของเราเดินเรียน ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินจากตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่ง อีกทั้งไม่มีคาบเบรคให้นักเรียนพักเล็ก ๆ เหมือนแต่ก่อน ก็ยิ่งต้องยืดหยุ่นให้นักเรียนบ้าง ยกเว้นนักเรียนที่เจตนาหนีเรียนหรือไม่สนใจเรียน
นั่งเรียนคุยตลอด หรือเสียบหูฟังเพลงตลอด หรือเล่นเกมในมือถือ เหล่านี้เป็นต้น ก็ควร
บันทึกพฤติกรรมลงในสมุดบันทึกรายคาบให้ละเอียดทั้งชื่อเลขที่และพฤติกรรมที่นักเรียน
กระทำ หรือแจ้งให้หัวหน้าระดับทราบโดยเร็ว ไม่ควรปล่อยไว้ให้นักเรียนทำพฤติกรรมเดิม ๆ
แบบซ้ำซาก จนก่อให้เกิดความวุ่นวายในห้องเรียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น