ภาวะผู้นำกับผู้บริหารนั้น ต่างก็มีความสำคัญและสัมพันธ์กันในองค์กร เพราะผู้บริหารคือผู้ที่มีหน้าที่โดยชอบธรรม ที่จะสามารถสั่งการบังคับบัญชาให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานหรือใช้ทรัพยากรที่ มีอยู่เพื่อตอบสนองนโยบายบริษัท เพราะฉะนั้นจากความหมายของคำว่า ผู้บริหารกับคำว่า ภาวะผู้นำ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะทำให้เราทราบว่า
ถ้าผู้บริหารไม่มีภาวะผู้นำคือมีแต่การสั่งการ บังคับบัญชาแต่เพียงอย่างเดียวก็อาจจะมีผลทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเกิดความไม่พอใจ เพราะผู้บริหารไม่มีภาวะความเป็นผู้นำ ซึ่ง
ภาวะความเป็นผู้นำนี้อาจจะประกอบไปด้วย คุณสมบัติที่สำคัญๆ ดังนี้คือ
- ประการแรก ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล สามารถประเมินสถานการณ์ขององค์กรได้ว่าในอนาคตจุดยืนขององค์กรจะอยู่ที่ใด และจะทำอย่างไรถึงจะไปถึงตรงจุดนั้น
- ประการที่สอง ต้องสนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชาให้ได้มีโอกาสในการแสดงความสามารถ ผลงาน
- ประการที่สาม ต้องสามารถสร้างแรงบันดาลใจ โน้มน้าวใจผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำงานให้กับองค์กร และต้องไม่เป็นคนหยุมหยิมเหมือนเป็นเสมียนชั้นสูง ที่คอยจับผิดในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่มุ่งสนใจไปที่งานหรือผลงานที่มีความสำคัญมากกว่า
นอกจากนี้ ถ้าผู้บริหารจะเป็นผู้บริหารที่ดีได้ ต้องเป็นผู้บริหารที่มีภาวะผู้นำ เมื่อผู้บริหารมีภาวะผู้นำแล้ว ก็จะกลายเป็นผู้นำที่ดีของทีมและขององค์กร เพราะฉะนั้นความหมายของคำว่า ผู้นำโดยสรุปก็คือ ผู้ที่มีทักษะในการจูงใจขับเคลื่อนผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำในสิงที่ถูกต้อง ชอบธรรมได้ด้วยความเต็มใจ
ปัจจุบันในวงการธุรกิจได้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นที่
ผู้นำจะต้องมีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง คือสามารถนำพาองค์กรก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลงของปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนิน ธุรกิจไม่ว่าภายในหรือภายนอก โดยการที่เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ในการกำหนดกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ พันธกิจขององค์กร และยังต้องเป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้นที่ต้องการที่จะแสวงหาความรู้อย่าง ไม่หยุดนิ่ง ส่งเสริม จูงใจ พัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำงานเพื่อให้
บรรลุเป้าหมายร่วมกันเสมอ
สรุปจากการฟังบรรยายโดย ผศ.พัชนี นนทศักดิ์ มหาวิทยาลัยบูรพา
ข้อมูลจาก http://www.gotoknow.org/blog/trainingbased/197666