“ดร.รุ่ง” ชี้ การศึกษาไทยวิกฤต แนะปฏิรูปการศึกษาเน้นผู้เรียน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ |
26 กรกฎาคม 2555 08:11 น. |
| |
|
|
“ดร.รุ่ง” ชี้
การศึกษาไทยวิกฤตหนัก วิชาชีพครูอยู่ในอันดับท้ายๆ ที่คนจะเลือก
แนะทุกคนช่วยปฏิรูปการศึกษากลับไปบ้านเกิดของตนใช้ความรู้สอนลูกหลานเน้นผู้
เรียนเป็นสำคัญ
วานนี้ (25 ก.ค.) ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
ดร.รุ่ง แก้วแดง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวระหว่างปาฐกถาพิเศษ วชิรบารมี “
ทิศทางการศึกษาไทยภายใต้ การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2”
มีใจความตอนหนึ่ง ว่า ประเทศไทยเริ่มจัดการศึกษาในระบบพร้อมๆ
กับประเทศญี่ปุ่น และมีการพัฒนาการศึกษามาต่อเนื่อง จนในปี 2540
มีการตรวจสอบ พบว่า การศึกษาไทยเป็นปัญหาใหญ่
เพราะจำนวนคะแนนเฉลี่ยของคนไทยต่ำมาก ในขณะที่กำลังคนในการศึกษาก็มีปัญหา
คือ วิชาชีพครูถดถอยลงเรื่อยๆ จากอดีตที่มีการคัดเลือกคนที่เรียนได้ที่ 1
มาเป็นครู แต่
ปัจจุบัน
วิชาชีพครูอยู่ในอันดับท้ายๆ ที่คนจะเลือก
และมักเป็นผู้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ในขณะที่ประเทศมาเลเซีย
เขาให้ความสำคัญกับวิชาชีพครูมาก ให้การสนับสนุน
ไม่ว่าจะเรื่องเงินเดือนครูก็สูงกว่าข้าราชการอื่นถึง 15%
และอย่างที่ประเทศจีน ก็ให้การยกย่องครูมาก
เหมือนที่ไทยเคยยกย่องครูเหมือนในอดีต แต่ปัจจุบันวิชาชีพครูถูกมองข้าม
แม้แต่สำนักงบประมาณ ยังบอกว่า ไม่มีเงินให้เพราะเป็นคนกลุ่มใหญ่ ขณะที่
บริษัทที่ปรึกษาแมคแคนซี่ ได้ทำการวิเคราะห์
และจ้างอาจารย์มหาวิทยาลัยดังของโลกมาทำการศึกษา สรุปว่า
ถ้าเราจะยกระดับการศึกษาได้ต้องมีระบบการเมืองที่ต้องนิ่งอย่างน้อย 8 ปี เช่น
ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และ เวียดนาม
และต้องมีผู้นำทางการเมืองที่มีวิสัยทัศน์ ในการปฏิรูปการศึกษา
ประกอบกับกระทรวงศึกษาธิการ ต้องมีนักการศึกษาที่เป็นผู้นำในการปฏิรูป
และขับเครื่องการศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง แต่ประเทศไทยไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย
เห็นได้จากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เปลี่ยนบ่อยมาก
และนักการศึกษาส่วนใหญ่ก็มีแต่พูด แต่ไม่ลงมือทำ
ดร.รุ่ง กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม
การศึกษาไทยกำลังวิกฤตหนัก ทำอย่างไรที่จะให้ทุกคนหันมาร่วมปฏิรูปการศึกษา
สร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศไทย วิธีที่
ง่ายที่สุด คือ กลับไปบ้านเกิด ใช้ความรู้
ประสบการณ์และเครือข่ายในการช่วยลูกหลานของเรา ทั้งนี้
การปฏิรูปการศึกษาควรเน้นปฏิรูปการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ส่งเสริมการบริหารแบบมีส่วนร่วมและตั้งเป้าหมายที่มีพลัง
และส่งเสริมการประกันคุณภาพภายในให้เป็นวัฒนธรรมคุณภาพ
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000091582
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น