เวลาประมาณ 15.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555 กระผมพร้อมด้วยบุตรสาวซึ่งกำลังเรียนระดับชั้น ม.2 และหลานสาวกำลังเรียนระดับชั้นป.6 เดินทางจากโรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา เพื่อจะกลับบ้าน ออกจากโรงเรียน เลี้ยวซ้ายผ่านสี่แยกป้อมไฟ ผ่านหน้าศาลจังหวัดสงขลา กำลังจะเลี้ยวขวาที่ถนนชลาทัศน์ สายตาไปเห็นบริเวณ
สนามหญ้า ฝั่งตรงกันข้ามกับร้านวรนารีโภชนาเดิมนั่นแหละ เห็นนักเรียนหญิงม.ต้นในเครื่องแบบนักเรียน นั่งพรอดรักกันอยู่
กับเด็กผู้ชายซึ่งแต่งกายในชุดพละ 2 คน และแต่งกายในชุดธรรมดาอีก 2 คน
ทุกท่านครับอย่าลืมว่าเส้นทางเส้นนี้ กระผมใช้เดินทางไปกลับมาหลายปีเหลือเกินแล้วครับ ประมาณตั้งแต่ปี 2529 โน่นครับ ไม่เคยเห็นภาพอะไรที่มันทำให้ความรู้สึกแย่มากมายปานนั้น กระผมจอดรถซิ่งซ้ายมองพฤติกรรมของบรรดาเด็ก ๆ ทั้ง
4 คู่ ที่กอด จูบ กันพัลวันพัลเก โดยไม่มีแม้แต่เศษุเสี้ยวหนึ่งที่บังเกิดในจิตใจของพวกเขาให้เกิดความรู้สึกสำนึกถึงความละอาย ความน่าเกลียด ความเหมาะสมไม่เหมาะสม โดยวัย โดยสถานที่ ขอบอกทุกท่านเลยครับ ความรู้สึกของผมมันแย่จริง ๆ โดยเฉพาะทุกคู่นักเรียนหญิงเป็นฝ่ายรุก เช่นใช้มือทั้งสองโน้มศีรษะของฝ่ายชายลงมาจูบ อีกคู่หนึ่งฝ่ายหญิงนอนหนุนตักฝ่ายชาย ก็โน้มคอฝ่ายชายลงมาบรรจงจูบ หลายต่อหลายครั้ง
อะไรกันนี่ ทำไมถึงกล้่าหาญกันมากมายเช่นนี้ ที่บรรดาพ่อแม่ ครูอาจารย์อบรมสั่งสอน มันไม่เพียงพอเสียแล้วกระมัง
ประชาชนทั่วไปในชุดกีฬาก็เดินผ่านไปมา วิ่งเหยาะ ๆ เดินจ็อกกิ้งผ่านกลุ่มเด็กเหล่านั้น ต่างก็พากันเบือนหน้าหนี มันห่างจาก
ฟุตบาทที่คนเดินไปมา แค่สองสามวาเอง ไม่มีความอับอายประชาชีกันบ้างเลยหรือ ตอนนี้ยิ่งอนาถผสมกับสลดแล้วล่ะ
มีผู้ใหญ่หรือใครที่ผ่านไปมา ได้หยุดว่ากล่าวตักเตือนบ้างไหม ไม่มีครับ เห็นแล้วเบือนหน้าหนีรีบเดินผ่านกันไปทั้งนั้น
บางคนผ่านไปแล้วไม่วายหยุดแล้วหันหน้ามามองพฤติกรรมอันเป็นวีรกรรมวีรเวร เหล่านั้นเพื่อบันทึกเอาไว้ในเมมมอรี่ของตน
อ้าว…กระผมก็มองเสียเพลิน ลืมแม้กระทั่งหยิบมือถือมาบันทึกภาพ หรือทำเป็นคลิบเอาไว้ แต่ก็กลัวข้อกฎหมายนะครับ
เลยไม่ได้นำภาพประกอบมาฝากทุก ๆท่านในวันนี้
แล้วทำไมกระผมไม่ลงไปว่ากล่าวตักเตือนด้วยตนเอง นั่นสิครับ ความรู้สึกขณะนั้นไม่อยากให้ลูกสาว หลานสาวได้เห็น
พฤติกรรมชู้ สาวเหล่านั้น กระผมจึงแข็งใจกลับรถออกจากสถานที่นั้น แต่ไม่วายเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นลูกศิษย์สาวของเราหรือเปล่า จึงกดโทรศัพท์หาฝ่ายปกครอง ให้ช่วยขับรถไปดูหน่อยเพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ไม่ไกลมากมายนัก
เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที เมื่อกระผมเดินทางถึงบ้าน ทางฝ่ายปกครองก็โทรศัพท์เข้ามาแจ้งให้ทราบว่า ที่บริเวณ
ดังกล่าวไม่มีกลุ่มนักเรียนดังกล่าวแล้ว อันนี้ไม่ทราบว่าพวกเขาตกใจรถของกระผมที่จอดดูอยู่นานสองนาน อาจจะเปลี่ยน
โลเคชั่นใหม่ หรือแยกย้ายกับกลับบ้านไปแล้วก็เป็นได้
แล้วนำเรื่องนี้มาพูดทำไม เพื่ออะไร ก็ไม่อยากให้บรรดาคุณครูของเราพูดแต่คำว่า “ทำใจ” กับเด็กสมัยนี้ เพราะเท่ากับ
เป็นการน้อมรับว่าเราป้องกันและแก้ไขปัญหาชู้สาว ดังกล่าวไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเอาตามครูทำใจ ครูอย่างเราก็เปลี่ยนชื่อเป็นครูสบายกันนะซิครับ
ไม่ทราบว่าพวกเราจะหยิบยกเรื่องพฤติกรรมชู้สาววัยละอ่อนดังกล่าวแล้วข้างต้น มาบรรจงบรรจุหรือออกแบบไว้
ใน Independent Study ได้หรือเปล่า ไหนลอง ๆ พิจารณาเรื่อง Independent Study กันหน่อยนะ เพราะพวกเราต้อง
เจอ IS แน่นอนแล้วในภาคเรียนนี้ครับท่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น