ข้อมูลจาก http://www.thairath.co.th/content/edu/130611

ความเสียหาย  มากมาย  สักเท่าใด        หนักหนาไหม  เมื่อเปรียบกับ  คนอื่นเขา
มีสูญเสีย  มากมายค่า  กว่าของเรา        ปรับปรุงเอา  ของบรัฐ  พัฒนา
ไม่น่าเกลียด  ถือโอกาส  ก็เปล่าหรอก    ภาพมันบอก อยู่ชัดเจน มองเห็นหนา
ไม่เสียหาย  ยังใช้ได้  เห็นเต็มตา          หากบอกว่า  เสียทั้งหมด  รันทดใจ
อยากจะค้าน ไว้ตรงนี้  สักคนครับ         ไม่ยอมรับ  การปรับปรุง  มีสงสัย
ทำเพื่อเด็ก  ถึงตัวเด็ก  ติดแหง็กไง        เรื่องก่อสร้าง  แสนฉับไว  น่าชมเชย
งบประมาณ ไว้ใช้การ  เพื่อเด็กบ้าง        การก่อสร้าง  หยุดยั้งบ้าง ช่างเฉลย
พัฒนา  วิชาการหนา  อย่าช้าเลย          พัฒนาครู  บ้างเถิดเอย  อย่ารีรอ
เด็กสำคัญ  นั้นจริงหรือ คือคำหวาน       วิชาการ  พัฒนา  แค่ไหนหนอ
กี่ปีแล้ว  รื้อ ๆ สร้าง  ยังไม่พอ               รื้อ ๆ สร้าง  จ้างกันต่อ พอเสียที
อยากจะเห็น บรรยากาศ วิชาการ           ระบือบาน  เด็กดีเก่ง  เปล่งศักดิ์ศรี
ทุ่มเทงบ  พัฒนา  ปัญญามี                 ให้มากกว่า  งบที่สร้าง  วัตถุธรรม

 

ข้อมูลจาก http://www.thairath.co.th/edu

สกัดเด็กฝาก...ทำได้แน่หรือ?

 

ข้อมูลเพื่อการศึกษาจาก http://www.thairath.co.th/content/edu/127818

เชิญครูผู้สนใจเข้ารับการอบรม การสอนแบบ blog สมัครเข้าเป็นเครือข่ายด้านล่างนี้

เนื่องจากการสอนแบบ blog กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ในขณะนี้ หากครูท่านใดสนใจจะเข้ารับการอบรม
ให้การชี้แนะให้จัดทำ blog รายวิชาที่คุณครูกำลังสอน สามารถมีแบบทดสอบที่ผู้สอบทราบคะแนนทันที
ที่สอบเสร็จ หรือทำแบบทดสอบแล้วข้อมูลของผู้เข้าสอบสามารถบันทึกเอาไว้ได้อีกด้วย
สามารถสนองตอบในเรื่องใดบ้าง
-การเรียนเนื้อหาใส่เนื้อหาเอง หรือใช้ลิงก์ไปหาเนื้อหาที่มีอยู่แล้วบนอินเตอร์เน็ต
-การสร้างแบบทดสอบทำได้สะดวก
-การมอบหมายงานนักเรียน ให้สร้าง blog ส่วนตัว และส่งงานผ่านบล็อกของนักเรียน
โดยมีปุ่มส่งงาน แยกห้องได้เป็นสัดส่วน
-นักเรียนสามารถติดต่อครูผู้สอนได้ โดยใช้เว็บบอร์ด หรือ chat หรือโทรศัพท์ก็ได้
-นักเรียนสามารถใช้เรียนโดยปกติ เรียนชดเชย เรียนซ่อมเสริม เรียนเพิ่มเติม ได้ดีมาก
-ฯลฯ
สำหรับวันเวลาการแนะนำหรือเข้ารับการอบรม เมื่อรวมกลุ่มเครือข่ายได้ 5-10 คน แล้วจะมาร่วมกัน
กำหนดอีกครั้งหนึ่งครับ
สิ่งที่ครูผู้เข้ารับการอบรมต้องมี คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook 1 คนละ 1 เครื่อง หรือ 2 คนต่อ 1 เครื่องครับผม
สนใจลงชื่อในช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้ หรือโทร 081-9690238

ห่วงเด็กถูกยัด เยียดความรู้เพื่อแข่งสอบ

ห่วงเด็กถูกยัดเยียดความรู้เพื่อแข่งสอบ นายกฯชี้ปฐมวัยต้องพัฒนาตามศักยภาพ  จี้ พม.เร่งแก้ปัญหาแม่วัยใส ... นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง "เด็กปฐมวัย สมรรถนะดี คิดดี ทำดี" จัดโดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติว่า 6 ปีแรกถือเป็นช่วงสำคัญที่สุดที่จะปูพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญและผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและพัฒนาอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ปัญหาในอดีตเรื่องของเด็กปฐมวัย เกิดจากช่องว่างการดูแลของภาครัฐ ที่ส่วนใหญ่เน้นการศึกษาในระบบ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่อายุ 5-6 ขวบ แต่ปัจจุบันการพัฒนาต้องเปลี่ยนแปลง โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ บูรณาการการทำงานเพื่อพัฒนาการการเรียนรู้ โดยจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติขึ้นมาดูแลอย่างมีเอกภาพ นายก รัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ปัญหาที่สำคัญของระบบการศึกษาไทยอีกสิ่งหนึ่งคือมีการแข่งขันกันสูง ดังนั้น เมื่อพื้นที่ใดมีการพัฒนา ก็จะเร่งให้เด็กเล็กระดับ ปฐมวัยต้องถูกยัดเยียดในเรื่องของความรู้เพื่อการแข่งขันในการที่จะสอบเข้า เรียน ซึ่งหมายการสอบเข้าเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาขึ้นไป ทั้งที่สิ่งที่มีความสำคัญในการพัฒนาสมรรถนะของเด็กคือ ให้คิดดี ทำดี มีทักษะในการพัฒนาการอยู่ร่วมในสังคม ตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายในการพัฒนาคุณภาพของเด็กปฐมวัยต่อไป ซึ่งวัยดังกล่าวมีความสนใจใคร่รู้ และโดยธรรมชาติ พวกเขาจะมีความสุขและสนุกในการเรียนรู้  แต่หากถูกปล่อยปละละเลยหรือถูกขู่เข็ญยัดเยียด ฝืนธรรมชาติ หรือถูกเฆี่ยนตีทำร้าย  ก็จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กได้ การพัฒนาเด็กกลุ่มนี้ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ความต้องการ  และมีความยืดหยุ่นหลากหลายตามศักยภาพของเด็กแต่ละคน นายอภิสทธิ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันสังคมไทยยังมีอีกหลายปัญหาที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องแม่ วัยใสที่ตั้งครรภ์ก่อนเวลาอันควร ซึ่งการแก้ปัญหาค่อนข้างยากลำบาก แต่ได้ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เร่งดำเนินการอยู่ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ยกระดับศูนย์ พัฒนาเด็กให้มีคุณภาพ รวมทั้งประสานให้สถานประกอบการตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก.

ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวการศึกษา
• 12 พฤศจิกายน 2553, 05:00 น.

นวัตกรรมและ เทคนิควิธีการทางการศึกษา

สร้างแบบทดสอบด้วย Quick Create

       ช่วงปิดน้ำท่วมได้มีเวลาสืบค้นอินเตอร์เน็ต ไปเจอโปรแกรมสร้างข้อสอบที่ยอดเยี่ยมโปรแกรมหนึ่งครับ ชื่อ Quick Create ได้ทดลองดาวน์โหลดแล้วมาสร้างแบบทดสอบแบบเติมคำ แบบถูกผิด แบบ 4 ตัวเลือก (Multiple Choice) และยังมีให้สร้างอีกหลายแบบครับ
ครูรุณย์ทดลองสร้างแบบถูกผิด 10 ข้อ สร้างแบบเติมคำอีก 5 ข้อ หน้าตาก็โอเคครับ
ขั้นตอนการสร้างแบบทดสอบในแต่ละรูปแบบก็ไม่ยุ่งยากครับ ลองดูหน้าตาเจ้าตัวนี้นะครับ
 

 

 คลิกดูตัวอย่างแบบทดสอบ
     แบบเติมคำ
     แบบถูกผิด
แบบถูกผิดนี่ครูรุณย์ก็ไม่รู้ว่าสร้างถูกต้องแล้วยัง หากผิดพลาดอยู่ใคร่ขอคำแนะนำจากผู้รู้ด้วยนะครับ หากท่านดาวน์โหลดโปรแกรม นำไปใช้แล้วเกิดข้อสงสัยสอบถามได้ครับ krukaroon@gmail.com จะพยายามตอบในสิ่งที่เราทำแล้วนำไปใช้แล้วนะครับ

    อีกตัวหนึ่งที่อยากแนะนำคือ การสร้างแบบทดสอบด้วย Flash ซึ่งอาจารย์องอาจ  ชาญเชาวน์ ครูคนเก่งของพวกเรา ได้จัดทำโครงสร้างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เราเท่าแต่ใส่คำถาม
และตัวเลือกเท่านั้นเอง ง่ายมาก ๆ และมีหน้าตาดีครับ มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากเท่าไรครับ
    สร้างหรือแก้ไขข้อสอบด้วย notepad ครับ  เมื่อสร้างเสร็จก็ไปเปิดด้วยโปรแกรม flash 8
สั่ง publish สุดท้ายก็ Export ไฟล์ออกมาเป็นไฟล์ swf  เป็นอันเสร็จครับ  สนใจติดต่อขอ
ตัวโครงสร้างโปรแกรมได้ครับ  ด้านล่างนี้คือหน้าตาของเขานะครับ

    ดูตัวอย่างแบบทดสอบที่สร้างด้วยตัวนี้ครับ คลิก
    เลือกดาวน์โหลดมาดูนะครับ

     ตัวล่าสุดนี้เป็นเว็บไซต์บริการให้เราสร้างแบบทดสอบ และเก็บข้อมูลผู้เข้าสอบเอาไว้ให้เราด้วย ได้ทดลองใช้แล้วดีมากครับ ตอนนี้กำลังให้สมัครเป็นสมาชิกหลัก 300 คน โดยเสียค่าบำรุงปีละ 200 บาทครับ คุ้มนะครับ

สนใจเข้าเว็บไซต์นี้ครับ http://www.exam.in.th/ ลองสมัครและสร้างดูนะครับ ติดขัดอย่างไร สอบถามครูรุณย์ได้นะครับ

นักเรียนเปิดเรียนวันที่ 10 พ.ย. ครูลงชื่อปฏิบัติงาน 8 พ.ย.

 

สภาพหลังคาอาคารเรียน 2 

 คุรุสภาเปิดทดสอบความรู้ครูไทย-เทศ

นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า คุรุสภาประกาศรับสมัครทดสอบความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 11-22 พ.ย. 2553 ซึ่งเป็นการรับสมัครทดสอบความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพครู สำหรับผู้ที่ประสงค์จะประกอบวิชาชีพครูทั้งครูชาวไทยและ ต่างประเทศ ที่มีมาตรฐานความรู้ไม่ตรงตามที่กำหนด โดยผู้ขอรับการทดสอบต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และไม่มีคุณลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด ซึ่งครูไทยสามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์คุรุสภา www.ksp. or.th หรือ http://testth.ksp.or.th ส่วนครูต่างประเทศสมัครที่ http://testeng.ksp.or.th และจัดทดสอบวันที่ 21-23 ม.ค. 2554 โดยภาคกลางจัดที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จังหวัดขอนแก่น และภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา
   
เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อไปว่า สำหรับ การทดสอบมาตรฐานความรู้ครูไทย นั้น สามารถเลือกทดสอบได้ 9 มาตรฐานความรู้ ประกอบด้วย 1.ภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู 2.การพัฒนาหลักสูตร 3.การจัดการเรียนรู้ 4.จิตวิทยาสำหรับครู 5.การวัดและประเมินผลการศึกษา 6.การบริการจัดการในห้องเรียน 7.การวิจัยทางการศึกษา 8.นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา และ 9.ความเป็นครู ส่วนมาตรฐานความรู้ครูชาวต่างประเทศ ประกอบด้วยมาตรฐาน 9 ด้าน รวม 4 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 ภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู และนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา ฉบับที่ 2 การพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ และ การบริหารจัดการในห้องเรียน ฉบับที่ 3 การวัด และประเมินผลการศึกษา และการวิจัยทางการ ศึกษา และฉบับที่ 4 จิตวิทยาสำหรับครู และความเป็นครู.
 ข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th/

                 ชี้แนวโน้มเลิกรับ ม.3ขึ้น ม.4 ร.ร.เดิมอัตโนมัติ

นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเตรียมการดำเนินโครงการทุนการศึกษาเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554 โดยจะจัดสรรทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ฐานะยากจนและด้อยโอกาสทั่วประเทศ รวมจำนวน 840 ทุน เพื่อให้นักเรียนเหล่านี้ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนสูงขึ้น โดยให้กระจายไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ทุกเขตพื้นที่ฯ เขตละ 4-5 ทุน ซึ่งจะคัดเลือกนักเรียนที่เรียนอยู่ชั้น ป.6 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 840 คน เพื่อรับทุนเรียนต่อชั้น ม.1 ปีการศึกษา 2554 โดยนักเรียนกลุ่มนี้จะได้รับทุนต่อเนื่องจนเรียนจบชั้น ม.6 ซึ่งระหว่างเรียนชั้น ม.1-3 จะได้รับทุนปีละ 6,000 บาท และชั้น ม.4-6 ได้รับทุนปีละ 10,000 บาท ทั้งนี้ จะต้องนำเสนอโครงการต่อที่ประชุมองค์กรบริหารหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป นายชินภัทรกล่าวถึงการจัดทำ หลักเกณฑ์การรับนักเรียนเข้าเรียนในโรงเรียนสังกัด สพฐ. ประจำปีการศึกษา 2554 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำหลักเกณฑ์ โดยในส่วนของการรับนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 เกณฑ์หลักๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังคงยึดของเดิม เช่น ในชั้น ม.1 โรงเรียนทั่วไปจะใช้เกณฑ์สัดส่วนการรับ 70:30 เป็นต้น แต่การรับนักเรียนเข้าเรียนชั้น ม.4 จะต้องมีการทบทวนเกณฑ์เดิมไม่ให้นักเรียนที่จบชั้น ม.3 เข้าเรียนต่อ ม.4 โรงเรียนเดิมโดยอัตโนมัติ แต่อาจจะต้องกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำของเด็ก และอาจต้องแบ่งสัดส่วนให้เด็กเก่งจากโรงเรียนอื่นมาสอบเข้าเรียนได้ด้วย เช่น นักเรียนจากโรงเรียนขยายโอกาส ส่วนความคืบหน้าการจัดทำหลักเกณฑ์การบริหารงานและการรับนักเรียนของโรงเรียน ที่มีลักษณะพิเศษ และได้รับความนิยมสูง ได้มีอิสระคล่องตัวในการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาเด็กไปสู่ความเป็นเลิศในด้าน ต่างๆ นั้น โรงเรียนที่อยู่ในกลุ่มนี้จะต้องมีการเรียนการสอนที่มีหลักสูตรพิเศษนอก เหนือจากหลักสูตรแกนกลาง อาทิ เปิดห้องเรียนพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ดนตรี กีฬา ซึ่ง สพฐ.จะต้องนำเสนอเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.พิจารณาให้ความเห็นชอบด้วย คาดว่าภายในเดือนมกราคม 2554 จะต้องมีการประกาศหลักเกณฑ์เรื่องนี้ออกมา ข้อมูลจาก http://www.matichon.co.th/

                                                             กำแพงเมืองสงขลา

                                   ยืนหยัด มานาน หนักหนา           ทนต่อ ดินฟ้า ไม่ไหว
                                   เหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ตามวัย       ร่วงโรย  ทรุดไป  ถมกอง

                            สนชายหาดชลาทัศน์หักโค่นอีก 10 กว่าต้น อนาคตจะเหลือสักกี่ต้น